สำหรับบล็อกนี้จะพาเพื่อน ๆ ชาว Gen C ที่กำลังมองหาคอนโดใจกลางเมือง หรือโซนปริมณฑล เพื่อตอบโจทย์การเดินทางที่สะดวกสบาย สามารถเชื่อมเข้าเมืองได้ง่ายด้วยขนส่งสาธารณะต่าง ๆ อาทิ รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ รถเมล์ประจำทาง และกำลังชั่งน้ำหนักในใจว่า ‘จะเช่าอยู่’ หรือ ‘ลงทุนซื้อ’ เป็นของตัวเองหรือไม่? โดยคำตอบของการตัดสินใจว่าจะ ซื้อหรือเช่า ขึ้นอยู่กับสถานะในช่วงเวลานั้น ๆ รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น เหตุผลในการใช้ชีวิต, ความต้องการส่วนบุคคล และสถานภาพทางการเงิน เป็นต้น
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคำตอบการเช่าหรือซื้อคอนโด แต่ละแบบจะมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าการเลือกด้านไหนจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตในช่วงเวลานั้นได้เหมาะสมที่สุด
เลือกเช่าอยู่ เช่าคอนโด การเช่าคอนโดเพื่อการอยู่อาศัยจะเป็นการทำสัญญากับทางเจ้าของห้อง โดยผู้เช่าจะต้องทำตามข้อตกลงในสัญญาทั้ง จำนวนเงินค่าเช่า, เงินมัดจำ หรือส่วนอื่น ๆ ตามที่ผู้เช่าและเจ้าของห้องตกลงกัน โดยการเช่าคอนโดจะมีข้อดีและข้อจำกัดดังนี้
- ค่าใช้จ่ายแรกเข้า ในทุกการทำสัญญาเช่า การเปลี่ยนสัญญาเช่าจะมีค่าใช้จ่ายส่วนแรกที่ต้องชำระ ได้แก่ ค่าประกันห้อง จำนวน 2 เดือน และค่าเช่าล่วงหน้า จำนวน 1 เดือน (จำนวนเดือนขึ้นอยู่กันตามตกลง) ซึ่งจะเก็บเป็นก้อนใหญ่ในครั้งแรก และจะได้รับเงินประกันห้องคืนหลังจากย้ายออก
- ค่าเช่าคงที่ ตลอดระยะสัญญาการเช่า จะต้องชำระค่าเช่าคงที่ในทุก ๆ เดือน แต่จะมีค่าสาธารณูปโภค เช่า ค่าน้ำ, ค่าไฟฟ้า ที่ผู้เช่าต้องจ่ายเองทุกเดือนตามบิลการใช้งาน
- ตกแต่งเพิ่มเติมไม่ได้ สำหรับการเช่าคอนโด ในฐานะผู้เช่าจะไม่สามารถปรับแต่ง ตกแต่งห้องให้แตกต่างจากเดิมได้ เช่น เปลี่ยนสีห้องไม่ได้, ติดวอลเปเปอร์ผนังใหม่ไม่ได้, เจาะผนัง, ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วท์อินไม่ได้ ซึ่งต้องเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญา
- มีความยืดหยุ่น การเลือกเช่าคอนโดจะสะดวกสบายเมื่อมีการอยากเปลี่ยนที่อยู่อาศัย ย้ายที่ทำงาน เราสามารถย้ายไปค้นหาคอนโดทำเลใหม่เช่าได้
การลงทุนในอนาคต การเลือกเช่าคอนโด ค่าเช่าคอนโดในทุกเดือนจะเป็นการจ่ายให้กับเจ้าของห้องโดยตรง ไม่ถือว่ามีกรรมสิทธิ์ร่วมกันแต่อย่างไร
ลงทุนซื้อเป็นของตัวเอง การเลือกซื้อคอนโดทำเลดี คอนโดใจกลางเมือง เสมือนเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ที่คุณจะได้เป็นเจ้าของห้องใหม่ มีกรรมสิทธิ์ทันทีเมื่อผ่อนครบตามสัญญา โดยการซื้อคอนโดจะมีข้อดีและข้อจำกัดต่าง ๆ ดังนี้
- ค่าใช้ส่วนแรก สำหรับการซื้อคอนโดจะมีค่าใช้จ่ายส่วนแรกที่ต้องชำระเป็นเงินสด ไม่ว่าจะค่าใช้จ่ายการจองห้อง, ค่าทำสัญญา, เงินดาวน์ 10-15% ของราคาคอนโด, ค่าธรรมเนียมการโอน จดจำนอง เป็นต้น
- ค่าตรวจห้องและตกแต่ง ก่อนทำสัญญารับห้องจะต้องมีการตรวจห้อง และหลังจากนั้นจะเป็นพาร์ทการตกแต่งห้องตามความต้องการ ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับสไตล์ที่ต้องการ
- ค่าใช้จ่ายประจำ ในทุกเดือนจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของ ค่าผ่อนกับธนาคาร, ค่าสาธารณูปโภค และในทุกปีจะมีค่าส่วนกลางที่คำนวณตามพื้นที่ของห้องชุด
- มีความยืดหยุ่น เชื่อว่าผู้ที่ตัดสินใจซื้อคอนโดส่วนใหญ่จะเลือกพื้นที่ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของตัวเองแล้ว หรือหากมีความจำเป็นต้องย้ายจะมีขั้นตอนมากกว่า ซึ่งสามารถเลือกปล่อยเช่า หรือ ขายให้กับเจ้าของใหม่เลยนั่นเอง
- การลงทุนในอนาคต การซื้อคอนโดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของห้อง ซึ่งหากเป็นเจ้าของในทำเลที่ดี มีความเจริญเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้คอนโดที่ซื้อมีมูลค่าสูงขึ้นได้ตามลำดับ
ซึ่งถ้าจากเหตุผลทั้งหมด การเลือกตัดสินใจว่าจะเช่าหรือซื้อคอนโด คงต้องกลับไปเช็กลิสต์ความต้องการ ปัจจัยในการใช้ชีวิตของตัวเองและครอบครัว
