แนะนำวิธีเช็คเบอร์มิจฉาชีพ ต้องทำอย่างไร รู้ไว้! เพื่อตามให้ทัน

เช็คเบอร์มิจฉาชีพ วิธีช่วยให้เตรียมตัวป้องกันเบอร์แปลก ที่คนไทยควรรู้

เช็คเบอร์มิจฉาชีพ บริการที่เกิดจากบุคคลจำนวนมาก ที่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงจากมิจฉาชีพ โดยใช้วิธีต่าง ๆ ในการหลอกลวง เช่น หลอกให้ติดตั้งแอปที่ขโมยเงินผ่านมัลแวร์ หรือการชักชวนให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ด้วยการทำให้เหยื่อกังวลและตกใจ เพื่อให้โอนเงินอย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลาไตร่ตรอง แต่การตรวจจับการหลอกลวงเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องยาก!  สิ่งสำคัญคืออย่ารีบเร่งในการโอนเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากหมายเลขโทรศัพท์ ขึ้นต้นด้วยรหัสประเทศที่ไม่คุ้นเคย เช่น ตัวเลขที่มีเครื่องหมายบวก (+) ด้านหน้า หากผู้โทรอ้างว่ามาจากองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แนะนำให้บันทึกการสนทนาทางไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเช็คเบอร์มิจฉาชีพแล้วลองค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ขององค์กรนั้น ๆ และติดต่อโดยตรง เพื่อสอบถามว่าเป็นคนขององค์กรจริงหรือไม่ เหนือสิ่งอื่นใดที่สำคัญที่สุดคือไม่ต้องรีบเร่งในการโอนเงินอย่างเด็ดขาด 

เทียบความต่างหลังเช็คเบอร์มิจฉาชีพ โทรมาแบบไหนถึงจะถูกโกง

ถ้าพูดถึงความแตกต่างระหว่างการโทรจากมิจฉาชีพและการโทรจากองค์กรจริง มีความแตกต่างพสมควร แต่สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยก็อาจตกเป็นเหยื่อได้ ทุกครั้งที่รับโทรศัพท์จึงควรมีสติก่อนตอบเสมอ เมื่อได้รับสายจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกตกใจและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ตั้งใจ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีสติ และอย่าปล่อยให้ข้อมูลส่วนบุคคลหลุดไปยังผู้โทรที่ไม่คุ้นเคย จึงขอสรุปการเทียบความต่างของแก๊งค์ Call Center มิจฉาชีพ กับองค์กรจริง ดังนี้  

  • เจ้าหน้าขององค์กรตัวจริง จะใช้หมายเลขติดต่อที่ถูกลงทะเบียนไว้กับศูนย์บริการ ข้อมูลส่วนใหญ่จะประกอบด้วยหมายเลขโทรศัพท์ 4 หลัก ไม่ใช่หมายเลขติดต่อส่วนบุคคล หรือหมายเลขที่ขึ้นต้นด้วย 08X, 09X และ 02 จึงจะบ่งชี้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอย่างแท้จริง ที่สำคัญเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะไม่มีการติดต่อมาก่อนแน่นอน ส่วนในกรณีคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง จะใช้หมายเลขส่วนตัวตามด้วยเสียงอัตโนมัติ ขอให้เรากดหมายเลขถัดไป เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม
  • สายจริงจากเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้เสียงอัตโนมัติ ในการรับสายหลังจากกดรับแล้ว แต่จะเป็นเสียงจริงของเจ้าหน้าที่พร้อมยืนยันข้อมูลของตัวเองชัดเจน เช่น ชื่อจริง นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่สามารถตรวจสอบได้ แต่ถ้าเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ก็มักจะหลอกลวงและถามข้อมูลส่วนตัวของคุณก่อน และจะไม่บอกรายละเอียดของตัวเอง หรือบอกเป็นข้อมูลปลอมที่ดูขัดแย้งกันไปหมด 
  • เมื่อรับสาย เจ้าหน้าที่ตัวจริงจะรับทราบและพร้อมแก้ปัญหาทันที ซึ่งแตกต่างจากพวกหลอกลวงที่จะถามหลังจากโอนสายว่าคุณต้องการติดต่อเราเกี่ยวกับอะไร ซึ่งค่อนข้างไม่สมเหตุสมผล หากได้รับหมายเลขติดต่อที่ระบุยอดคงค้าง แต่เจ้าหน้าที่ถามว่าเราต้องการติดต่อเรื่องอะไร ถือเป็นสัญญาณของการหลอกลวงที่ชัดเจน
  • พวกหลอกลวงมักจะส่งลิงก์ทาง SMS โดยใช้ภาษาที่รู้ได้ทันทีว่ากำลังมาหลอก เช่น คุณโชคดีได้รับรางวัล, คลิกลิงก์นี้เพื่อกรอกข้อมูล หรือคุณมีเงินจำนวนหนึ่ง โปรดยืนยันด้วยการคลิก หากเป็นองค์กรจริงจากกธนาคารชั้นนำของไทย จะไม่ส่งลิงก์ทาง SMS แน่นอน

5 วิธีเช็คเบอร์มิจฉาชีพ มีให้หลากหลายช่องทาง เลือกไปใช้ได้ตามสะดวก 

ปัจจุบันมีแนวโน้มความเสียหายเพิ่มขึ้นจากมิจฉาชีพ ที่หลอกลวงให้คนทั่วไปโอนเงินหรือนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ต่อ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ วิธีหนึ่งในการตรวจสอบความถูกต้อง คือ เช็คเบอร์มิจฉาชีพ เนื่องจากนักต้มตุ๋นเหล่านี้ มักใช้หมายเลขที่ไม่คุ้นเคย เพื่อหลอกลวงคนให้ทำธุรกรรมทางการเงิน หรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งการเช็คเบอร์มิจฉาชีพ ออนไลน์ สามารถทำได้ 5 วิธีต่อไปนี้ 

1.การใช้แอพพลิเคชั่น Whose Call

เช็คเบอร์มิจฉาชีพ whoscall แอพจะแสดงข้อมูลทุกครั้งที่มีสายเรียกเข้า จะระบุว่าเป็นหมายเลขของใคร หรือเป็นขององค์กรใด โดยพิจารณาจากฐานข้อมูลที่ผู้ใช้แอพรายงานร่วมกัน หากเป็นหมายเลขที่ไม่ต้องการให้ติดต่อได้ ผู้ใช้สามารถเลือกบล็อกหมายเลขนั้นได้ทันที สามารถดาวน์โหลดแอพได้ฟรี ทั้งบนอุปกรณ์ของระบบ Android และ iOS

2.ใช้การค้นหาเบอร์จาก Google 

การเช็คเบอร์มิจฉาชีพใน Google อาจเปิดเผยข้อมูลที่สามารถระบุได้ว่าหมายเลขนั้นเป็นของใคร เช่น หมายเลขของธนาคาร ผู้ให้บริการ องค์กร หรือแม้แต่บุคคลมืออาชีพ ซึ่งอาจเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการระบุผู้โทรที่ไม่รู้จัก หรือตรวจสอบความถูกต้องของหมายเลขโทรศัพท์ ใช้การค้นหาของ Google สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า และช่วยในการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล เมื่อต้องรับมือกับหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย

3.หาเบอร์จากในแอปพลิเคชั่น Line 

หากต้องการเพิ่มเพื่อนบน LINE ให้เปิดแอพ LINE และไปที่ส่วน “เพิ่มเพื่อน” จากนั้นเลือก “เพิ่มด้วยหมายเลขโทรศัพท์” และป้อนหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลที่คุณต้องการเพิ่ม เมื่อกรอกหมายเลขแล้วให้คลิกที่ปุ่มค้นหา เพื่อค้นหาบัญชี LINE ที่เชื่อมโยงกับหมายเลขโทรศัพท์นั้น ๆ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับผู้ติดต่อที่คุณต้องการบน LINE ได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีเช็คเบอร์มิจฉาชีพที่จะทำให้ได้ข้อมูลลงลึกมากขึ้น 

4.เปิดการค้นใน Facebook

กรณีที่หมายเลขโทรศัพท์เป็นของบุคคลธรรมดา และเชื่อมโยงกับบัญชี Facebook การค้นหาหมายเลขบน Facebook จะนำคุณไปยังหน้าโปรไฟล์เจ้าของเบอร์ทันที แต่หากเจ้าของไม่ได้ตั้งค่าหมายเลขโทรศัพท์ของตน ให้แสดงต่อสาธารณะ การเช็คเบอร์มิจฉาชีพบน Facebook ก็อาจไม่พบหมายเลขที่ต้องการค้นหา

5.ตรวจสอบเบอร์จากค่ายมือถือโดยตรง

เครือข่ายมือถือแต่ละเครือข่าย มีมาตรการเช็คเบอร์มิจฉาชีพไว้รองรับลูกค้าที่ได้รับสายไม่พึงประสงค์ หรือถูกรบกวนจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก หากคุณประสบปัญหาดังกล่าว คุณสามารถติดต่อเครือข่ายโทรศัพท์ได้ทุกค่าย ดังนี้ 

  • AIS กด *727* ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการ จากนั้นกดปุ่มโทรออก
  • DTAC กด *102* ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ แล้วกดปุ่มโทรออก
  • TRUE กด *933* ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ แล้วกดปุ่มโทรออก
  • TOT กด *153* ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ จากนั้นกดปุ่มโทรออก

หลังการเช็คเบอร์มิจฉาชีพ ควรจัดการอย่างไร? เพื่อความปลอดภัย

หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับการหลอกลวงและการเช็คเบอร์มิจฉาชีพ มีเรื่องที่ควรจัดการต่อเพื่อระมัดระวัง เพราะต้องยอมรับว่าแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ มีการอัพเกรดวิธีการหลอกลวงให้ดียิ่งขึ้นไปอีก สิ่งสำคัญคือต้องควบคุมและป้องกันตนเองจากการตกเป็นเหยื่อ ด้วยวิธีต่อไปนี้  

1.บล็อกเบอร์

การติดตั้งแอพพลิเคชันเช็คเบอร์มิจฉาชีพ ที่สามารถช่วยกรองหมายเลขที่ไม่รู้จัก จะช่วยเพิ่มความระมัดระวังในการรับสายได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น Whoscall เป็นแอพที่ให้ผู้ใช้มีฟังก์ชันในการรายงานหรือบล็อกหมายเลขสแปม ทำให้สามารถจัดหมวดหมู่หมายเลขเหล่านี้ และแสดงบนระบบการแจ้งเตือนได้ หากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคยถูกรายงานว่าเป็นสแปม หมายเลขนั้นจะถูกตั้งค่าสถานะบนหน้าจอโทรศัพท์ทันที จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น 

2.ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว

วิธีดำเนินการของมิจฉาชีพ คือการพูดให้เหยื่อยอมจ่าย โดยจะระบุหมายเลขบัญชีธนาคารและสั่งให้เหยื่อโอนเงิน  ขณะเดียวกันก็หลอกให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทั้งหมด ขอแนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ของธนาคารหรือองค์กรที่ถูกแอบอ้างโดยตรง จะช่วยยืนยันได้และปกป้องคุณ จากการตกเป็นเหยื่ออีกด้วย

3.อย่ากดลิงค์ที่ไม่รู้จัก

สิ่งสำคัญคือต้องใช้ความระมัดระวังเมื่อได้รับลิงก์ข้อความ หรือการดาวน์โหลดที่ไม่พึงประสงค์ เนื่องจากอาจมีสแปมหรือแอพที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ของคุณจากระยะไกล จะเป็นอันตรายต่อข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ รวมถึงธุรกรรมทางการเงิน แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดคืออย่าคลิกลิงก์ใด ๆ ที่ส่งมาทาง SMS เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ระมัดระวังและจัดลำดับความสำคัญความปลอดภัยทางไซเบอร์ของคุณ โดยหลีกเลี่ยงการโต้ตอบกับเนื้อหาที่น่าสงสัย

เช็คเบอร์มิจฉาชีพ แต่ไม่ทัน! โอนเงินไปแล้ว ต้องทำอย่างไร? 

หากโอนเงินไปแล้วโดยไม่ได้ตั้งใจ สามารถแจ้งผ่านช่องทางต่าง ๆ เริ่มจากติดต่อสายด่วนธนาคารที่คุณใช้งานอยู่ ซึ่งจะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง จากนั้นให้แจ้งความด้วยการโทร 1441 หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 1599 นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งออนไลน์ได้ที่ https://www.thaipoliceonline.com/ และศูนย์ PCT โทร. 081-866-3000 สิ่งสำคัญคือต้องเก็บข้อมูลและหลักฐานการโอน หรือการทำธุรกรรมทั้งหมดที่ได้ทำไว้กับมิจฉาชีพ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีทางกฎหมาย หากรู้ตัวว่าถูกหลอกก็ควรรีบติดต่อธนาคารและแจ้งความทันที เพื่อขอคำสั่งศาลจากตำรวจ แล้วนำไปยืนยันกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อให้ติดตามเงินคืนทันเวลา นอกจากการเช็คเบอร์มิจฉาชีพและจัดการกับเบอร์แปลก ๆ ที่อาจมาจากศูนย์บริการแล้ว ยังมีกลเม็ดและการหลอกลวงอื่น ๆ ที่ต้องระวังอีกด้วย ยิ่งรู้ล่วงหน้ามากเท่าไร ก็จะยิ่งเตรียมพร้อมรับมือและไม่ตื่นตระหนก เมื่อเผชิญกับปัญหาที่แท้จริง  อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าบางครั้งการรับหมายเลขแปลก ๆ อาจไม่ได้มาจากศูนย์บริการเสมอไป ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตื่นตัว เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกและไม่ให้ข้อมูลใด ๆ แก่อีกฝ่าย การทำเช่นนี้ทำให้สามารถป้องกันตนเองจากการหลอกลวงได้ในระดับหนึ่ง

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top