วิธีลดความอ้วนอย่างปลอดภัย ตัวช่วยเพิ่มความมั่นใจคนลดน้ำหนัก
วิธีลดความอ้วนที่ถูกต้องและปลอดภัย คือ การทำให้ไขมันส่วนเกินลดลง จากนั้นให้ทดแทนกลับด้วยกล้ามเนื้อ เพราะยิ่งมีมวลกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่ ระบบเผาผลาญก็จะยิ่งทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น โดยคนที่มีมวลกล้ามเนื้อมากจะเผาผลาญแคลอรีได้มากกว่าคนที่มีมวลกล้ามเนื้อน้อย อาหารที่ทานจะถูกนำไปใช้หรือเก็บไว้เป็นไขมันส่วนเกิน การสะสมไขมันนี้เองที่จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักและรูปร่างที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม แต่การลดน้ำหนักก็ไม่ได้หมายถึงการอดอาหารอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด เพราะต้องเข้าใจก่อนว่าตัวเลขบนเครื่องชั่ง เป็นเพียงติดตามการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวโดยรวมเท่านั้น แต่ไม่ใช่การบ่งชี้ว่าการลดน้ำหนักของคุณมีประสิทธิภาพดีพอแล้วหรือยัง
7 วิธีลดความอ้วน ง่ายๆ ได้ผลเร็ว ไม่เสี่ยงสุขภาพเสียหาย แค่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
หากคุณต้องการวิธีลดความอ้วน เร็วที่สุด และต้องการลดน้ำหนักภายในไม่กี่วัน สามารถทำได้จริง! แต่ก็ต้องทำอย่างถูกต้อง จึงจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าน้ำหนักจะไม่ขึ้น-ลงเร็วเกินไปจนสุขภาพก็อาจทรุดตามไปด้วย วันนี้จึงขอแนะนำ 7 วิธีลดความอ้วนอย่างรวดเร็วแต่ปลอดภัย คุณสามารถลดน้ำหนักส่วนเกินได้ในเวลาที่ต้องการ โดยรับประกันว่าไม่เป็นอันตรายต่อระบบเผาผลาญของคุณอย่างแน่นอน คือ
1.วิธีลด 10 โล ใน 7 วัน
สูตรลดน้ําหนัก 7 วัน 10 กิโล เริ่มจากแนวทางการควบคุมปริมาณอาหาร แนะนำว่าหากต้องการลดน้ำหนักประมาณ 0.5-1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ควรลดปริมาณอาหารต่อวันลง ให้เหลือประมาณ 500-750 แคลอรี่ ซึ่งหากรับประทานอาหาร 3 มื้อต่อวัน ให้ลดปริมาณอาหารเฉลี่ยที่มื้อละ 200-250 แคลอรี่ งดของหวานหลังอาหาร รวมถึงเปลี่ยนวิธีการปรุงอาหารจากทอดเป็นต้ม นึ่ง หรือย่าง เลือกใช้น้ำมันให้น้อยลง หลีกเลี่ยงการใส่น้ำตาลหรือเกลือมากเกินไป จากนั้นให้เพิ่มกิจกรรมทางกายภาพให้มากขึ้น ใช้เป็นการเดินวันละ 45 นาทีขึ้นไป ก็สามารถช่วยลดน้ำหนักได้เช่นกัน แต่ความสามารถในการลดน้ำหนักลักษณะนี้ จะขึ้นอยู่กับร่างกายและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยเป็นวิธีลดความอ้วน ผู้ชายที่ช่วยให้ลดลงได้เร็วอย่างปลอดภัยอีกด้วย
2.วิธีลด 10 โล ใน 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน
แผนการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วด้วยไข่ต้ม พร้อมคำแนะนำการจับคู่อาหารสามารถช่วยให้คุณลดความอ้วน 10 กิโล 2 อาทิตย์ลดน้ําหนัก 1 เดือน เพราะไข่มีโปรตีนสูง ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้อย่างรวดเร็ว เมื่อใช้ร่วมกับอาหารแคลอรีต่ำอื่น ๆ ที่รับประทานได้ตลอดทั้งวัน วิธีนี้จะไม่เพียงแต่ป้องกันไม่ให้น้ำหนักขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณรู้สึกอิ่มยาวนานขึ้น ลดความอยากอาหารได้อีกด้วย เพียงเลือกเมนูไข่ที่ใช้วิธีการทำแบบต้ม นึ่ง ย่างแทน สลับทานกับอาหารที่มีประโยชน์ทุกวัน จะทำให้การลดน้ำหนักเร็วขึ้น แต่ก็ไม่แนะนำให้ทำเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ขาดสารอาหารได้ วิธีลดความอ้วนวิธีนี้ให้ใช้ภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ คุณจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ จากนั้นค่อยปรับสู่การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ประเภทอื่น ๆ ร่วมด้วย
3.วิธีลดด้วยการทำ IF
วิธีลดความอ้วน if เป็นการควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่บริโภค จากการจำกัดช่วงเวลาในการรับประทานอาหาร โดยมีหลายวิธีในการอดอาหารเป็นระยะ แต่ที่นิยมที่สุดคือจำกัดการรับประทานอาหารให้เหลือช่วงเวลา 8 ชั่วโมง และอดอาหารยาวไป 16 ชั่วโมง วิธีง่าย ๆ วิธีหนึ่งในการฝึก IF คือ การรับประทานอาหารระหว่าง 06.00-14.00 น. และอดอาหารตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป โดยดื่มเฉพาะน้ำเปล่า กาแฟดำ หรือชาไม่ใส่น้ำตาลในช่วงเวลาที่อดอาหาร สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงสารให้ความหวานในช่วงเวลาที่อดอาหาร เนื่องจากสารเหล่านี้อาจไปกระตุ้นให้เกิดความหิวและอยากกินน้ำตาล โดยการฝึก IF ให้เป็นวิธีลดความอ้วนควรทำอย่างสม่ำเสมอ จึงจะสามารถนำไปสู่การลดน้ำหนักอย่างได้ผลดี
4.วิธีลดของคนไม่มีเวลาออกกำลังกาย
วิธีลดความอ้วน แบบไม่ออกกําลังกาย คือ การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และควบคุมอาหาร เพราะผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินจะชอบทานอาหารรสหวาน เค็ม และมีแคลอรีสูง รับประทานอาหารว่างตลอดทั้งวัน หรือทานอาหารช่วงดึกบ่อยครั้ง หากคุณจริงจังกับวิธีลดความอ้วน สิ่งสำคัญคือต้องเปลี่ยนมาทานอาหารที่มีรสชาติเบาลง ลดปริมาณน้ำตาลและเกลือให้ได้ เพื่อลดการกระตุ้นอินซูลินที่เปลี่ยนน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตให้เป็นไขมันสะสม สำหรับผู้ที่ชอบกินขนมระหว่างวัน ควรแบ่งมื้ออาหารออกเป็น 4 ส่วนย่อย เพื่อลดความอยากกินของหวาน แล้วเริ่มรับประทานอาหารในเวลา 7.00-11.00 น. และ 15.00-18.00 น. โดยพยายามเข้านอนเร็วขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการความหิวในช่วงดึก
5.วิธีลดน้ำหนักผู้หญิง เร่งด่วน
วิธีลดน้ําหนัก ผู้หญิง แบบเร่งด่วน พร้อมรักษาสุขภาพที่ดี สิ่งสำคัญคือต้องรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อต่อวัน แต่ต้องเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น ขนมหวาน อาหารทอด ของขบเคี้ยว และอาหารแปรรูป ควรเน้นกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อาหารนึ่งและต้ม รวมถึงผลไม้และผักต่าง ๆ ทุกวัน รับประทานอาหารเย็นแบบเบา ๆ และรับประทานอาหารให้เสร็จภายใน 18.00 น. เพื่อให้ร่างกายได้ย่อยอาหารก่อนเข้านอน นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล หากคุณอยากทานของหวาน ให้เลือกทานผลไม้สดเพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น การออกกำลังกายเป็นประจำถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดี การพักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงการนอนดึก จะช่วยให้ร่างกายถูกฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว จึงทำให้วิธีลดได้ผลมากขึ้น
6.วิธีลดด้วยอาหาร
อาหารลดความอ้วน ไม่ใช่การกินน้อยลง แต่คือการกินให้ถูกต้อง ซึ่งหมายถึงการบริโภคสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และกินน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มการเผาผลาญ ในระหว่างกระบวนการลดน้ำหนัก ควรเลือกทานอาหารประเภทนึ่งหรือต้ม เน้นการเพิ่มโปรตีนจากแหล่งต่าง ๆ ที่ไม่ติดมัน เลือกทานไขมันดีในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์และคาร์โบไฮเดรตแปรรูป แล้วเน้นรับคาร์โบไฮเดรตจากข้าวกล้อง หรือขนมปังโฮลวีตที่มีวิตามินสูงแทน นอกจากนี้ การรวมผลไม้และผักในทุกมื้ออาหารก็เป็นสิ่งสำคัญในวิธีลดความอ้วน
7.วิธีลดใน 7 วันอย่างมีประสิทธิภาพ
ลดน้ําหนัก 7 วัน ให้มีประสิทธิภาพ ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเลือกโปรตีนไขมันต่ำ สามารถช่วยลดปริมาณแคลอรีที่คุณจะได้รับ พร้อมแบ่งจานของคุณออกเป็น 2 ส่วน สำหรับผักและผลไม้ จำกัดอาหารแปรรูปที่มีแคลอรี่และไขมันสูง หลีกเลี่ยงอาหารกระป๋องที่มีน้ำตาล ดื่มน้ำเปล่าให้มากเพื่อช่วยลดน้ำหนัก ปริมาณน้ำที่แนะนำให้ดื่ม คือ อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับเพศ อายุ และระดับกิจกรรมของคุณ พร้อมการเคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลาให้เหมือนการออกกำลังกายตามปกติ ใช้วิธีลดปริมาณอาหารลงทีละน้อย และออกกำลังกาย จะถือเป็นวิธีลดใน 7 วันที่เป็นธรรมชาติ ให้ความปลอดภัย ไม่มีปัญหาน้ำหนักตีกลับแน่นอน
วิธีลดความอ้วน ทำให้เหมาะกับน้ำหนัก รูปร่าง และช่วงวัย จะเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น
การลดน้ำหนักให้ได้ผลและส่งผลดีต่อสุขภาพ จำเป็นต้องแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหาก่อน แล้วลดน้ำหนักลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ในระยะยาว ไม่เกิดผลกระทบเชิงลบจาก YOYO Effect หรือการกลับไปมีน้ำหนักเท่าเดิมและอาจมีน้ำหนักที่มากขึ้น วิธีลดความอ้วนให้อยู่ในช่วงที่ปลอดภัยและเหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการลดน้ำหนักด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม ไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เช่น การควบคุมอาหารอย่างเข้มงวดเกินไป ไม่ดูเรื่องมวลร่างกาย การใช้ยาลดน้ำหนักอย่างไม่เหมาะสม การอดอาหาร หรือการออกกำลังกายมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ และไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพกายเท่านั้น แต่ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ลงไปด้วย