รวมร้านดินเนอร์สุดเก๋ไม่ไกลจากย่านพระราม 3

Jann Bistro

เริ่มกันที่ร้านแรกอย่าง Jann Bistro ร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่นในเครือ Neil’s Tavern ของเชฟหย่งตรีรัตน์ พิชณุษากร ผู้มีประสบการณ์ในร้านอาหารหลายร้านในเมืองซานฟรานซิสโกมากว่า 5 ปีก่อน โดยร้าน Jann Bistro จะตั้งอยู่บนถนนจันทน์เก่า บรรยากาศร้านภายนอกดูเหมือนบ้านที่มีต้นไม้สีเขียวครึ้มตกแต่งอยู่ มีทั้งโซนเอ้าท์ดอร์ให้นั่งชิลล์ ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ และโซนอินดอร์ที่ตกแต่งแบบร่วมสมัย แฝงด้วยสีสันสดใสบนผนังและกรอบรูปที่แต่งแต้มสีสันให้กับร้าน ในส่วนของเมนูอาหารเน้นเสิร์ฟทั้งอาหารฝรั่งและอาหารไทยโดยได้คัดเลือกวัตถุดิบชั้นดีทั้งจากในและต่างประเทศทั้งเนื้อสัตว์และผักต่าง ๆ นำมาทำเป็นอาหารฝรั่งและอาหารไทยทานง่ายอย่าง Saute Prawn with Garlic (295 บาท) กุ้งผัดกับซอสกระเทียม หอม และพริกแห้ง เสิร์ฟมากับขนมปังให้ทานคู่กัน Scallop Wasabi (315 บาท) หอยเชลล์ตัวใหญ่ราดซอสวาซาบิรสเปรี้ยวหวาน มีกลิ่นหอม ๆ ขึ้นจมูก เหมาะสำหรับใครที่ชอบวาซาบิ หรือจะลองสั่งอาหารไทยอย่าง แกงคั่วเนื้อปูใบชะพลู (375 บาท) มีรสเผ็ดปนหวานเล็ก ๆ ทานคู่กันกับโรตีเข้ากันได้ดีทีเดียว ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มทางร้านมีทั้งชา กาแฟ นำ้ผลไม้ เบียร์ และค็อกเทลให้ลอง ทางร้านแนะนำดริ๊งก์ดื่มง่ายที่ทุกคนคุ้นเคยอย่าง Plum Mojito (220 บาท) ที่ใส่บ๊วยเข้ามาใน Mojito เพื่อเพิ่มความหวานอร่อยไปอีกแบบ

Jann Bistro
ถนนจันทน์เก่า เขตสาทร
เปิดทุกวันเวลา 11.30 – 14.00 และ 17.30 – 22.00 น.
โทร. 02-678-8001-2
Facebook.com/jannbistro

Thyme : Eatery & Bar

ถัดมาที่ร้าน Thyme : Eatery & Bar ร้านอาหารในย่านพระราม 3 บนถนนนางลิ้นจี่ ที่พร้อมเชิญชวนให้คนย่านนี้และใครที่ผ่านไปผ่านมาได้เข้ามาลองสัมผัสบรรยากาศของอาหารสไตล์ตะวันตกโดยเชฟมากประสบการณ์กันได้ อาหารของที่นี่จะเป็นสไตล์ Modern European โดย Chef Victor Burgos เชฟชาวสเปนผู้เคยมีประสบการณ์เป็น Sous Chef ในร้านอาหาร Michelin Star ระดับ 2 ดาว อาหารที่นี่จะมีส่วนผสมของอาหารสเปนหลายอย่าง เชฟครีเอตอาหารด้วยความละเอียดอ่อนทีละขั้นตอน จึงทำให้รสชาติมีความซับซ้อนแต่ก็ไม่ได้เข้าถึงยากจนเกินไป จานซิกเนเจอร์ของที่นี่จะใช้วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Cold Cuts และวัตถุดิบที่ใช้ทำ Tapas โดยเฉพาะ Iberico Ham 50G (650 บาท) ที่ให้รสเค็มนิด ๆ ทานกับ Tomato Bread ที่ใช้มะเขือเทศบดผสมกับกระเทียมช่วยดึงรสชาติของเนื้อออกมาได้ดี สำหรับแฟนอาหารสเปนคงไม่มีใครไม่รู้จักเมนูยอดนิยม Paella ข้าวผัดสเปน ที่นี่มีให้เลือกหลายแบบ แนะนำให้สั่ง Black Ink (1,100 บาท) เสิร์ฟมาในจานใหญ่ มี Grilled Octopus ชิ้นใหญ่และกุ้งซ่อนอยู่ในข้าวที่ผัดมาอย่างพอดี และไฮไลท์อย่าง Black Ink จากปลาหมึกที่มีความมัน รสกลมกล่อม ใครที่มองหาเครื่องดื่ม ที่นี่เสิร์ฟเครื่องดื่มทั้ง กาแฟ ไวน์ เบียร์ แนะนำ Signature Cocktails ที่มีคอนเซ็ปต์เก๋ ๆ อย่าง Dirty Sweet (260 บาท) ที่ใช้ Vodka เป็นเบส แล้วใส่ผลไม้รสหวานทั้งลิ้นจี่ แอปเปิ้ล และเสาวรส

Thyme : Eatery & Bar
ถนนนางลิ้นจี่ ช่องนนทรี
เปิดทุกวันเวลา 11.30 – 23.00 น.
โทร. 02-678-1333
www.facebook.com/ThymeEatery

Butcher Beef and Beer

ปิดท้ายกันที่ร้านนั่งชิลล์บรรยากาศดีอย่าง Butcher Beef & Beer ร้านนั่งกินดื่มแบบง่าย ๆ บนถนนเจริญราษฎร์ ที่นำความชอบในการดื่มเบียร์และการทานเนื้อมาเป็นจุดแข็งของร้าน Butcher Beef & Beer ที่มาพร้อมกับการบริการที่เป็นกันเอง ให้หลายคนแวะมานั่งกินดื่มกันได้ชิลล์ ๆ หลังเลิกงานกันได้ ทีมงานของ Butcher Beef & Beer ได้เปลี่ยนพื้นที่ร้างของบาร์เก่าโดยยังคงเค้าโครงเดิมอย่างตู้คอนเทนเนอร์มาทาสีใหม่ ยกระดับพื้นให้สูงขึ้นและติดชื่อร้านด้วยป้ายชื่อจากแผงหลอดไฟเท่านั้น เพื่อรักษาบรรยากาศให้เป็นร้านที่ไม่มีพิธีรีตอง สำหรับพระเอกของเมนูอาหารคงหนีไม่พ้นเบียร์และเนื้อ ที่เป็นสองสิ่งที่เข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ โดยทางร้านจะมีเนื้อเกรดพรีเมียมเข้ามาอาทิตย์ละ 2 ครั้งเพื่อเอาใจคนรักเนื้อ ทางร้านแนะนำเป็น Super Steak (800-900 บาท) เป็นเนื้อวัวไทย-เฟรนช์สันนอกที่มีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำและละเอียดกว่าเนื้อเกรดปกติ จานนี้เสิร์ฟมาในปริมาณ 3 ขีดครึ่งที่หั่นมาในทรงลูกเต๋า ใครที่กลัวเลี่ยน สั่ง Butcher No.2 (600 บาท) เป็นเนื้อวัวไทย-เฟรนช์เช่นกัน มีปริมาณของมันน้อยกว่า แต่นุ่มอร่อยไม่แพ้กัน ส่วนพระเอกอย่างเบียร์ ที่นี่มีพาเหรดคราฟท์เบียร์หลากหลายสัญชาติ ทั้งญี่ปุ่น อังกฤษ สก็อตแลนด์และเบลเยียมให้เลือกกันในราคาไม่แรง

Butcher Beef and Beer
ถนนเจริญราษฎร์
เปิดเวลา 18.00 – 00.00 น. (ปิดวันจันทร์)
โทร. 086-030-5953
Facebook.com/butcherbeefandbeer