ทำไมนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์บางคนรวย แต่บางคนกลับไม่รวย

ประการแรก “ต้องเข้าใจก่อนว่า… นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จะรวยได้อย่างไร”

หลายคนซื้อสินทรัพย์เพื่อการลงทุน แต่ไม่รวยซักที แถมบางครั้งยังเป็นภาระ ต้องเสียค่าส่วนกลางสำหรับห้องชุดจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์ หรือแม้แต่บ้านจัดสรร แถมยังหาคนเช่าไม่ได้ ทำให้ทุนจม ต้องจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน แต่รายรับไม่เข้า หรือบางครั้งมีรายรับเข้า แต่ก็ไม่พอจ่ายดอกเบี้ย ทำให้กระแสเงินสดต้อง “ติดลบ” ทุกเดือน

สาเหตุเป็นเพราะความคิดที่อยาก “ประหยัด” ทำให้การเลือกทำเลดีๆ เป็นปัจจัยรองลงมา ความจริงแล้วการเลือกทรัพย์ควรเลือกที่ทำเลก่อน ค่อยมาคิดเรื่องงบประมาณทีหลัง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการจะซื้อที่ดินเปล่า มีนักลงทุนสองคนให้พิจารณาดังนี้

– คนแรก ซื้อที่ดินไกลปืนเที่ยง หมายความว่าห่างไกลความเจริญมาก ถนนยังไม่ตัดผ่าน และไม่มีแววว่าจะตัดผ่านในเร็ววันนี้ ไฟฟ้าก็ยังไม่มี แต่ราคาถูกมาก บอกได้เลยว่าเงินต้องจมในที่ดินดังกล่าวไปอีกหลายปีอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งกู้เงินมาซื้อยิ่งมีภาระดอกเบี้ย แถมยังจะมีภาษีที่ดินในเร็วๆ นี้อีก
– คนที่สอง ซื้อที่ดินที่ถนนตัดผ่านแล้ว มีหมู่บ้านมาลง และเริ่มจะมีหมู่บ้านเกิดใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่ดินราคาแพงพอสมควร สาเหตุที่คนที่สองตัดสินใจซื้อที่ดินดังกล่าว เนื่องจากพิจารณาแล้วว่า หมู่บ้านใหม่ๆ ที่มาลงจะเติมจำนวนประชากรเข้าในพื้นที่เรื่อยๆ และรถที่ต้องเข้าๆ ออกๆ หมู่บ้าน ทำให้รถบนถนนต้อง “ชะลอรถ” ไม่ได้วิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว และแน่นอนที่สุดว่าที่ดินติดถนนแบบนี้ขายได้ จะทำตลาดนัด ทำร้านสะดวกซื้อก็ดี ทำให้ซื้อมาไม่กี่ปีก็ขายทำกำไรได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของราคาที่ซื้อมา
จากตัวอย่างดังกล่าวจะเห็นว่า การซื้อที่ดินที่จะเติบโตในอีกไม่กี่ปี แต่ราคาสูงหน่อย ย่อมดีกว่าซื้อที่ดินห่างไกลความเจริญมากๆ และกว่าจะขายออกต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต้องใช้ “เงินหมุน” และไม่ควรจมทุนนานจนเกินไป หมุนซื้อขายที่ที่มีสภาพคล่องดีๆ ไม่กี่ปีก็รวยได้เหมือนกัน

ประการที่สอง “ต้องรู้ว่านักลงทุนอสังหาริมทรัพย์รวยจากอะไร”

บางคนซื้อคอนโดไว้ไม่กี่ห้อง แล้วก็บ่นว่าไม่ได้อะไรเลย เพราะค่าเช่าไม่คุ้มค่างวด พาลทำให้ขายห้องทำเลดีๆ ออกเร็วเกินไปอย่างน่าเสียดาย แบบนี้แสดงว่านักลงทุนคนนี้ไม่รู้ว่านักลงทุนอสังหาริมทรัพย์รวยจากอะไร
ความจริงก็คือ ถ้าเราเลือกสินทรัพย์ทำเลดีๆ ควรเก็บไว้กับตัวอย่างน้อย 3 ปี เนื่องจากทำเลที่ดีจริงมันจะพัฒนาตัวเอง และมูลค่าจะเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ผมมีนักลงทุนอสังหาที่รู้จักกันคนหนึ่ง ถือห้องชุดคอนโดมิเนียมกว่า 10 ยูนิต ด้วยการสะสมมานานกว่า 10 ปี และทยอยขายทำกำไรได้มากกว่าห้องละ 50-60% ของราคาซื้อ ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเขาซื้อห้องละ 5 แสน 10 ห้องใช้เงิน 5 ล้าน ทิ้งไว้ 10 ปี เขาขายไปได้ 10 ล้าน ได้กำไร 5 ล้านภายในสิบปี ในระหว่างนั้นก็เก็บค่าเช่ากินได้เรื่อยๆ ขาดทุนมั่ง กำไรมั่ง แต่จะเริ่มกำไรปีหลังๆ และเมื่อเขาได้ทุนมา 10 ล้าน ก็ต่อยอดทำอะไรได้อีกมากมาย แบบนี้แสดงว่านักลงทุนที่เป็นเพื่อนผมท่านนี้เขาเข้าใจ และรู้ว่านักลงทุนอสังหาริมทรัพย์รวยจากอะไรนั่นเอง

ประการสุดท้าย “คิดเรื่องเงิน”

การคิดเรื่องเงินที่จะนำมาลงทุนถือเป็นสิ่งสำคัญประการสุดท้ายที่จะตัดสินว่า ทำไมนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์บางคนรวย แต่บางคนกลับไม่รวย เพราะการคิดเรื่องเงินนั้นก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ แม้เราจะพบทำเลดีมาก และคิดว่ามันเป็นไอเดียที่ดีขายทำกำไรในอนาคต จะเก็บไว้กินเงินค่าเช่าก็มีกระแสเงินสดเป็นบวกเหลือ แต่เงินไม่พอ บางครั้งเราก็ต้องล้มแผน ไปหาทำเลที่ดีรองลงมา
แต่สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์บางคนที่มีความชำนาญ บางครั้งเรื่องเงินก็ไม่เป็นแม้แต่อุปสรรคเสียด้วยซ้ำ เพราะเมื่อเขาคนนั้นพบดีลดีๆ ที่ทำกำไรได้แน่นอน หรือค่อนข้างชัวร์ เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาทุน บางครั้งก็ไปหยิบยืมซึ่งค่อนข้างเสี่ยง และต้องแน่ใจว่าดีลนี้ดีจริง สำเร็จได้จริง ประสบการณ์จะบอกเขาเอง ไม่ก็ต้องหา “ผู้ร่วมทุน” ยอมกำไรน้อยหน่อย แบ่งให้กับผู้ร่วมทุน เพื่อได้เงินมาปิดดีลที่ดีนี้ไม่ให้คนอื่นคว้าไปกินง่ายๆ

และนั่นคือส่วนหนึ่ง ของทั้งหมดในการที่ใครคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จจากการเป็นนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และเป็นการตอบคำถามที่ว่า … ทำไมนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์บางคนรวย แต่บางคนกลับไม่รวย

ติดตามบทความอัพเดตสำหรับชาว GEN-C ได้ทุกเดือนทาง THE GEN-C Urban Living Solution Blog #Anandaurbancash
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามและรับข่าวสารหรือร่วมกิจกรรมดีๆกับเราทาง THE GEN-C Urban Living Solution Blog
ได้ที่http://bit.ly/2aEMxIJ