Note:
– บ้านบางเขนเป็นทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตของคนไทยในอดีต โดยเฉพาะของเก่าที่มีอยู่มากมาย ซึ่งของทุกชิ้นล้วนเป็นของสะสมของ “คุณกล้วย – สมพงษ์ พิศาลกิจวนิช” นักสะสมอายุ 54 ปี จึงไม่แปลกหากที่นี่จะมีของเก่าสะสมทุกแบบให้เราได้ไปย้อนวันวาน
– คุณกล้วยตัดสินใจเปลี่ยนร้านอาหารและซาวน์น่าให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวกึ่งพิพิธภัณฑ์ โดยรวบรวมไม้เก่าจากทั่วประเทศมาสร้างเป็นอาคารพาณิชย์หน้าตายุค 90 และนำของสะสมที่มีมากเป็นโกดังมาจัดแสดง
– การเข้าชม ‘โซนพิพิธภัณฑ์’ ต้องซื้อตั๋วเข้าชมในราคา 20 บาท/คน แต่รับรองความคุ้ม โดยเฉพาะคนชอบถ่ายรูป เพราะภายในเต็มไปด้วยมุมถ่ายภาพเก๋าๆ แบบยุค 90 ให้เลือกถ่ายมากมาย
‘สถานที่ซุกซ่อนความทรงจำในวัยเด็ก’ คือนิยามของ “บ้านบางเขน” แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่เสิร์ฟบรรยากาศไทยวินเทจเสมือนได้นั่งไทม์แม็กซีนย้อนกลับไปในช่วงยุค 90 ให้เราได้คิดถึงช่วงเวลาในวันวาน ขณะที่เด็กรุ่นใหม่ก็ได้ศึกษาและสัมผัสเสน่ห์ของยุค 90 แบบ 4 มิติ
โดย ‘เสน่ห์ของยุค 90 ในบรรยากาศไทยวินเทจ’ นี้ส่งผ่านสถาปัตยกรรมอาคารพาณิชย์ไทยๆ เมื่อครั้งอดีต โดยเฉพาะเสน่ห์ของไม้เก่าซีดที่ผ่านกาลเวลามายาวนานและเครื่องอุปโภคบริโภคจากยุค 90 ที่หาไม่ได้แล้วในปัจจุบัน ฯลฯ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คุณจะได้สัมผัสเมื่อไปเยือนบ้านบางเขน
• ต้อนรับด้วยความอิ่มของอาหารหลายภาค
ทันทีที่เราย่างเท้าก้าวเข้าสู่พื้นที่บ้านบางเขนก็จะพบกับ “โซนอาหาร” ที่จัดจำหน่ายอาหารนานชนิดให้เราเติมพลังก่อนเดินเล่นรอบพิพิธภัณฑ์ โดยโซนนี้จะอยู่ด้านหน้าและเป็นพื้นที่โซนนอกของบ้านบางเขน ซึ่งสิ่งที่ทำให้โซนอาหารของที่นี่โดดเด่นจนอดที่จะนั่งเล่นสักครู่ไม่ได้ก็คือบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา กับอาคารไม้ที่สร้างให้เหมือนกับอาคารพาณิชย์สมัยก่อน ส่วนเมนูอาหารของที่นี่ก็มีหลากเมนูให้เราเลือกชิม ไม่ว่าจะเป็นแกงมัสมั่นทานกับข้าวสวยร้อนๆ (80 บาท), หมูสะเต๊ะ (ชุดเล็ก 55 บาท), ขนมเบื้องไข่ (48 บาท), ส้มตำรสแซ่บ, ผัดไทยโบราณ เป็นต้น
• ศิลปะบนกำแพง มุมต้องถ่ายภาพเช็กอิน
นอกจากอาคารไม้หน้าตาเสมือนอาคารพาณิชย์ในยุค 90 แล้ว จุดเด่นอีกอย่างของบ้านบางเขนก็คือ ‘ศิลปะบนกำแพง’ ที่มีอยู่รอบๆ สถานที่ ซึ่งศิลปะบนกำแพงนี้เป็นกิมมิกที่ให้เราได้เก็บภาพสวยๆ ไปอวดเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นกำแพงภาพวาดเสมือนจริงที่เกิดจากการเพ้นท์ พร้อมแขวนชิงชาจำลองให้เราได้นั่งถ่ายภาพ หรือจะเป็นกำแพงที่โก้ด้วยป้ายโฆษณายุค 90 โดยเฉพาะป้ายโฆษณาของเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างเครื่องดื่มโคคา-โคล่ากับคู่แข่งอย่างเครื่องดื่มเป๊ปซี่ การตกแต่งผนังด้วยป้ายโฆษณาเก่านี้ยิ่งขับเน้นเสน่ห์ความเป็นไทยวินเทจให้บ้านบางเขนได้เป็นอย่างดี จนเราอดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพป้ายโฆษณาเหล่านั้นเก็บไว้
• เก็บสะสมของที่ระลึกจากอดีต โดยมีเครื่องดื่มโค้กเป็นพระเอก
ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ เราจะพบกับร้านจำหน่ายของที่ระลึก ซึ่งแน่นอนว่าร้านจำหน่ายของที่ระลึกของที่นี่ย่อมไม่ธรรมดา โดยเฉพาะแฟนเครื่องดื่มโค้ก เพราะที่นี่มีของพรีเมี่ยมที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ของโค้กวางจำหน่ายในราคาสบายกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นแก้วโค้กทรงต่างๆ, ที่รองแก้วกับ 6 ลวดลายให้เก็บสะสม, กระเป๋าแบบต่างๆ ที่มีโลโก้โค้กเด่นหรา ฯลฯ แต่หากใครไม่นิยมโค้ก ที่นี่ยังมีของที่ระลึกประเภทอื่นๆ วางจำหน่ายอีกด้วย อย่างรถโบราณจำลอง ของสะสมยอดฮิตอย่างหมี Bearbrick เป็นต้น
• เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และของสะสมที่จำลองวิถีบ้านๆ ของยุค 90
โซนพิพิธภัณฑ์ คือโซนที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของบ้านบางเขน เพราะโซนนี้เป็นพื้นที่ที่จำลองวิถีบ้านชีวิตของผู้คนในยุค 90 โดยจัดแบ่งออกเป็นอาคาร/ร้านค้าประเภทต่างๆ นั่นคือ
01. บ้านพ่อหลวง : เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้เราได้ชมและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน พร้อมทั้งยังจัดแสดงภาพ รูปปั้น ธนบัตร เหรียญและของสะสมต่างๆ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เอาไว้มากมาย ฯลฯ
02. บ้านโค้ก : เป็นอาคารที่รวบรวมเรื่องราวและจัดแสดงผลิตภัณฑ์กับสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มโค้ก ไม่ว่าจะเป็นขวดและกระป๋องโค้กรุ่นหายาก ของสะสมเกี่ยวกับโค้ก ทั้งเหรียญ แก้ว ป้ายโฆษณา ตู้กดโค้ก ฯลฯ ที่สำคัญยังมีโทรทัศน์ไซส์ยักษ์ที่เปิดเล่นวีดีโอโฆษณาของเครื่องดื่มโค้ก ตั้งแต่โฆษณายุคแรกๆ จนถึงปัจจุบัน
เมื่อเดินเข้ามาอีกก็จะพบกับบ้านต้นไม้ ซึ่งทำหน้าที่เสมือนจุดเซ็นเตอร์ให้เราได้นัดแนะกับเพื่อนฝูงที่พลัดกลุ่ม โดยรอบๆ ยังมีของว่างวางจำหน่ายให้เราได้เพลิดเพลินระหว่างชมอีกด้วย ทั้งไอศกรีมแท่งโบราณ ขนมเบื้อง ฯลฯ
03. อาคารพาณิชย์เรียนรู้วิถีชาวบ้านในยุค 90 : พื้นที่ส่วนนี้จะออกแบบเป็นอาคารพาณิชย์เรียงรายเป็นแนวยาว โดยจำลองเป็นร้านค้าและสถานที่สำคัญๆ ที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของคนไทย
– วิทยาพรโอสถ ร้านขายยาโบราณที่มีทั้งยาแผนปัจจุบันจากยุค 90 และยาแผนจีน
– โรงเรียนลำสนุ่น จำลองห้องเรียนวัยประถมมีทั้งโต๊ะ เก้าอี้ไม้ กระดานดำ และชอล์กให้เราได้สวมบทบาท
– เจี่ยเอ็งไถ่พานิช ร้านจำหน่ายตะเกียงน้ำมันโบราณ
– ฮั้วเฮง ร้านจำหน่ายวิทยุและเครื่องมือสื่อสาร ที่ภายในแอบซ่อนร้านตัดผมโบราณเอาไว้
– ไทยเจริญทรัพย์ ร้านโซห่วย ที่ขายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ เพราะขายของทุกอย่าง ตั้งแต่ลูกอมฮอลล์, แฟบซักผ้า ตุ๊กตาบาร์บี้ไทย หม้อ ชาม ฯลฯ
• คาเฟ่ที่เปิด 24 ชม.
และก่อนที่เราจะถึงทางออกของโซนพิพิธภัณฑ์ เราจะพบกับคาเฟ่สไตล์เรโทรที่โดดเด่นด้วยของสะสมสุดเท่ภายใต้อาคารหลังใหญ่คล้ายโกดัง ที่สำคัญคาเฟ่แห่งนี้ยังเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงอีกด้วย ส่วนเมนูที่เสิร์ฟนั้น มีตั้งแต่เครื่องดื่มแก้วโปรดทั้งกาแฟ สมูทตี้ อิตาเลียนโซดา ฯลฯ และเมนูขนมหวานเอาใจสาวๆ ไม่ว่าจะเป็นเมนูขนมเค้กและเมนูบิงซูหลากรส เป็นต้น
• Co-working space เที่ยวก็ได้ ทำงานก็ดี
โซนสุดท้ายที่ทำให้เราแปลกใจก็คือ co-working space กึ่งห้องสมุดให้นักท่องเที่ยว รวมทั้งนักศึกษาได้ไปนั่งทำงาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แถมยังมี wi-fi ให้ใช้กันแบบฟรีๆ อีกด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามสงเสียงดังและห้ามนำอาหารเข้าไปรับประทาน ภายใน co-working space ตกแต่งในโทนอบอุ่นด้วยสีน้ำตาลขาว โดยมีโต๊ะให้เลือกนั่งหลากหลาย ทั้งแบบบาร์เคาน์เตอร์นั่งทำงานเดี่ยวๆ หรือจะนั่งทำงานเป็นกลุ่มก็มีโต๊ะขนาดใหญ่ให้บริการ อีกทั้งยังมีมุมนั่งสบายกับโต๊ะญี่ปุ่นให้เราได้ยืดแข้งยืดขาอีกด้วย
บ้านบางเขน
• Open: เปิดทุกวัน 24 ชม.
• Address: ถนนพหลโยธิน อยู่ตรงข้ามกับกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เขตบางเขน
• Tel: 085 921 6666
• Facebook: www.facebook.com/baanbangkhen
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development
