หน้าฝนนี้ เตรียมตัวอย่างไรดีไม่ให้การขับขี่เกิดอุบัติเหตุ

หน้าฝนนี้ เตรียมตัวอย่างไรดีไม่ให้การขับขี่เกิดอุบัติเหตุ

NOTE:
– จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในกรุงเทพมหานครจำนวนเฉลี่ย 30,000 ครั้ง พบว่ากว่าร้อยละ 50 มักเกิดในช่วงที่ฝนกำลังตก
– ถนนที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดในช่วงเวลาฝนตกคือ “ถนนเพชรบุรี” อันเนื่องมาจากบริเวณนี้ไม่มีเกาะกลางถนน
– จากสถิติของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ.)พบว่า หน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้ออกปฏิบัติงานช่วยเหลืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในเฉพาะช่วงฤดูฝนสูงถึงร้อยละ 39 ของการช่วยเหลือตลอดทั้งปี

อย่างที่ทราบกันดีว่า “ฝน” เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนถึงครึ่งต่อครึ่ง โดยจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในกรุงเทพฯมหานครกว่าร้อยละ 50 นั้น พบว่าเกิดขึ้นในขณะที่ฝนกำลังตกแทบทั้งสิ้น และยิ่งเข้าสู่ช่วง “หน้าฝน” แบบนี้ คงเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เจอกับฝนตก วันนี้เราจึงมีวิธีเตรียมตัวในการขับขี่ยวดยานพาหนะอย่างไรให้ปลอดภัยในช่วงหน้าฝนมาฝากชาว Gen-C กันครับ

02

1.หมั่นตรวจเช็คสภาพรถอยู่เสมอ
ข้าวของทุกอย่างเมื่อมีการใช้งานทุกวันย่อมเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา รถของเราก็เช่นกัน ควรหมั่นตรวจเช็คสภาพรถอยู่เสมอ ทั้งระบบไฟสัญญาณ ที่ปัดน้ำฝน กระจกมองข้าง และยางรถยนต์ เป็นต้น

2.ใช้ความเร็วให้เหมาะสม
หลายครั้งที่คุณเคยชินกับการขับรถบนถนนปกติด้วยความเร็วสูง แต่เมื่อฝนกำลังตกหรือถนนมีการเปียกฝนอยู่นั้น ให้พึงระลึกเสมอว่าควรลดระดับความเร็วที่ใช้และต้องเผื่อระยะห่างในการเบรกจากคันข้างหน้าเป็นสองเท่าอีกด้วย

03

3.หลีกเลี่ยงการขับลุยบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง
ในการขับรถลุยบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง ควรปิดระบบแอร์ทั้งหมดและใช้เกียร์ต่ำแทนเพื่อไม่ให้รอบเครื่องยนต์นั้นต่ำเกินไปจนเป็นเหตุให้น้ำไหลย้อนเข้าสู่ท่อไอเสียได้

4.ระมัดระวังแอ่งน้ำ
แอ่งน้ำบนถนนนั้นถือเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมานักต่อนัก เพราะนอกจากจะทำให้รถเหินและลื่นไถลได้แล้ว ในบางครั้งแอ่งน้ำยังมีความลึกจนทำให้รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง เสียหลักจนพลิกคว่ำได้ ทางที่ดีควรชะลอความเร็วเมื่อขับผ่านแอ่งน้ำจะเป็นการดีที่สุด

01

5.ลดการเบรกกะทันหันและบ่อยจนเกินไป
เนื่องจากฝนตกจึงทำให้ถนนมีความลื่นค่อนข้างสูง การเบรกกะทันหันเกินไปอาจทำให้รถเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุตามมาได้เช่นกัน

6.ระมัดระวังเป็นพิเศษ
หากต้องการขับฝ่าฝน ในช่วง 5 นาทีแรกที่ฝนตกนั้นถนนจะลื่นเป็นพิเศษจึงควรใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

04

7.อย่าขับฝ่าฝน
ในบางครั้งการขับรถฝ่าฝนก็ไม่ใช้วิธีที่ดีสักเท่าไหร่นัก ถ้าหากฝนตกหนักมากจนไม่สามารถเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะ 10-20 เมตร ควรแวะเข้าปั๊มน้ำมันหรือหาที่จอดเพื่อรอฝนซาจะดีกว่า

ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development

ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก: www.safedrivereducation.com

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top