NOTE:
– จากผลการสำรวจของ“กรมสุขภาพจิต”พบว่า เด็กไทยมีปัญหาทางด้านพัฒนาการล่าช้ากว่าร้อยละ 50 ซึ่งเป็นผลอันเนื่องมาจากการให้เด็กเล็กๆใช้เทคโนโลยีตั้งแต่อายุยังน้อย
– จำนวนเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเด็กในการใช้เทคโนโลยีคือ 30 นาทีต่อวันเพียงเท่านั้น
– จากผลการสำรวจของหน่วยงาน NIDA สหรัฐอเมริกาพบว่า 1 ใน 8 ของประชากรวัย 13 – 30 ปีมีอาการเสพติดเทคโนโลยี โดยร้อยละ 80 ต้องเช็คความเคลื่อนไหวของมือถือทุกๆชั่วโมง และร้อยละ 72 เมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือนขึ้นมามักจะต้องตอบกลับข้อความนั้นไปในทันที
“หมกมุ่น อารมณ์แปรปรวน และใจร้อนตลอดเวลา” คืออาการเบื้องต้นของคนในยุคนี้ที่เสพติดกับเทคโนโลยีมากเกินไป โดยเมื่อเทียบกับผู้คนในสมัยก่อนที่เทคโนโลยียังไม่พัฒนา จะเห็นได้ว่าแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆในปัจจุบันก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมาได้เพราะความใจร้อนนี่เอง
และก่อนที่เทคโนโลยีจะลดทอนคุณค่าทางจิตใจของผู้คนยุคนี้ไปเสียหมด วันนี้เรามี 5 วิธีบอกลาอาการเสพติดเทคโนโลยีมาฝากชาว Gen-C ให้ลองนำไปใช้กันครับ
1.จำกัดเวลาการใช้งาน
“เคยไหม? ที่หยิบมือถือขึ้นมาเล่นโซเชียลแต่กลับกินเวลาไปเป็นชั่วโมงๆ” ซึ่งการหมกมุ่นอยู่กับเทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น การดูโทรทัศน์ เล่นโทรศัพท์ เล่นเกม ฯลฯ ย่อมทำให้จิตใจของเรานั้นฝักใฝ่อยู่กับแค่สิ่งตรงหน้าจนลืมว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดแล้ว ทางที่ดีเราควร “จำกัดเวลา” ในการใช้งานแต่ละครั้งเพื่อช่วยควบคุมไม่ให้เจ้าเทคโนโลยีเหล่านี้มาพรากเวลาอันมีค่าไปจากเราเสียจนหมด
2.มองหางานอดิเรกอื่นๆ
หลายครั้งที่อาการเสพติดเทคโนโลยีเกิดขึ้นจากความว่าง ซึ่งชาว Gen-C อาจลองใช้เวลาว่างที่มีอยู่นี้หางานอดิเรกอย่างอื่นที่สนใจ เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะพิเศษของเราเพิ่มเติมก็ย่อมได้ เช่น การเล่นดนตรี อ่านหนังสือ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ทำอาหาร ฯลฯ ดีไม่ดีสิ่งเหล่านี้อาจจะกลายมาเป็นรายได้เสริมอีกช่องทางหนึ่งให้เราโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้
3.ซื้อแต่พอดี ดาวน์โหลดแค่พอใช้
“พอดี” ข้อนี้มีความหมายตรงตัวคือการ “พอใจในสิ่งที่มี และ มีแต่พอดี” ในโลกที่เทคโนโลยีถูกพัฒนาอยู่แทบจะทุกวินาทีสินค้าไอทีต่างเปิดตัวกันไม่เว้นแต่ละวัน Gadget ที่เราซื้อมาในวันนี้อาจกลายเป็นของตกรุ่นในวันรุ่งขึ้นก็ย่อมได้ หรือแม้กระทั่งพวกแอปพลิเคชั่นยอดฮิตทั้งหลายที่ดังเพียงแค่ชั่วข้ามคืนมีผู้คนโหลดตามเป็นล้านๆ ก่อนที่เราจะเสียเงินจ่ายเพื่อดาวน์โหลดนั้น ลองถามตัวคุณเองก่อนว่าแล้วเราจะได้ใช้ประโยชน์จากมันมากน้อยแค่ไหน?
4.ปิด Notifications
“หากไม่มีสิ่งเร้ามากระตุ้น ความอยากก็จะไม่เกิด” เพราะการเห็นสัญลักษณ์แจ้งเตือนต่างๆเหล่านี้ ย่อมกระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นของคนเราให้ทำงานอย่างแน่นอน ดังนั้นควรปิด Notifications บางอย่างที่ไม่จำเป็นลงไปบ้าง โดยตั้งเตือนเฉพาะแต่อันที่สำคัญจะดีที่สุด
5.ตั้งสติ
ข้อสุดท้ายคือการ “ตั้งสติ” มองว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกออนไลน์หรือสื่อต่างๆที่เราเสพนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่เอาไว้เพื่อความผ่อนคลายและสร้างความบันเทิงให้แก่ชีวิต การมีตัวตนบนโลกออนไลน์ไม่ได้แปลว่าชีวิตจริงเราจะประสบความสำเร็จเสมอไป โดยเมื่อใดที่เทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้ทำให้เราเครียด ไม่มีความสุข เมื่อนั้นเราควรถอยห่างออกมาแล้วให้เวลากับชีวิตในการทำอย่างอื่นจะดีกว่าครับ
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก: www.dmh.go.th
