NOTE:
– After The Rain คาเฟ่กึ่งเบเกอรี่สัญชาติเกาหลีของนักร้องและนักแสดง “เรน ชอง จี ฮุน” พระเอกจากซีรี่ย์ Full House โดยสาขาที่ Show DC เป็นสาขาแรกที่เปิดในไทย
– แม้จะเป็นคาเฟ่สัญชาติเกาหลี แต่ที่นี่กลับเน้นเสิร์ฟเมนูบรั๊นช์สไตล์อิตาเลียนและเมดิเตอร์เรเนียนสไตล์ฟิวชั่นให้เราได้ลิ้มลอง พร้อมเสิร์ฟขนมปังโฮมเมดของร้านเป็น appetizer ก่อนชิมจานหลัก
– อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่คือเบเกอรี่ที่อบสดใหม่ทุกวัน โดยได้สูตรและใช้วัตถุดิบจากเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นขนมปังโซโบรู, ขนมปังถั่วแดง ขนมปังครีมนม เป็นต้น
ณ Show DC คือแหล่งรวมความฮิตและความฮิปจากเกาหลี หนึ่งในนั้นก็คือร้านอาหารกึ่งเบเกอรี่ “After The Rain” คาเฟ่บรรยากาศสบายๆ ที่อบอวลด้วยความหอมกรุ่นของเบเกอรี่ที่อบสดใหม่ทุกวัน พร้อมเสิร์ฟอาหารฟิวชั่นให้เราไปลิ้มลอง
After The Rain เป็นคาเฟ่สัญชาติเกาหลีของนักร้องและนักแสดงที่ใครๆ ต่างรู้จักเขาจากซีรี่ย์เรื่อง Full House “เรน ชอง จี ฮุน” โดยสาขาที่ Show DC เป็นสาขาแรกที่มาเปิดในเมืองไทย จุดเด่นของที่นี่คือการเสิร์ฟเมนูบรั๊นช์ฟิวชั่นและเบเกอรี่สไตล์เกาหลี พร้อมนำเสนอเครื่องดื่มดีท็อกเพื่อสุขภาพอีกด้วย
คอนเซ็ปต์ของร้านคือ ‘บรรยากาศหลังฝน’ ตามชื่อร้าน After The Rain จึงตกแต่งในบรรยากาศสดชื่นสบายๆ ผ่านสีเขียวของต้นเฟิร์นขนาดใหญ่ที่แขวนจากเพดานร้าน เติมดีไซน์เท่ๆ ผ่านไม้เก่าที่นำมาตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นคาน เสา เคาน์เตอร์บาร์ รวมทั้งพื้นไม้ที่ปูผสมกับปูนเปลือย เบรกความดิบด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลอ่อนกับท็อปโต๊ะสีขาวหินอ่อน
โดยจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างเป็นสัดส่วน พร้อมเปิดสเปซโล่ง ให้ทั้งความเป็นส่วนตัวและช่วยทำให้ร้านดูโปร่งน่านั่งอีกด้วย เพิ่มความเป็นเบเกอรี่ด้วยตู้โชว์ขนาดใหญ่ พร้อมวางเบเกอรี่ที่อบสดใหม่แบบต่างๆ เอาไว้หน้าร้าน เพื่อให้กลิ่นหอมกรุ่นของเบเกอรี่ทำหน้าที่เรียกแขก อีกทั้งยังมีจัดวางเกอเกอรี่แต่ละชนิดให้เราได้ชิมก่อนซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย
แม้จะเป็นคาเฟ่กึ่งเบเกอรี่ที่ส่งตรงจากเกาหลี แต่ After The Rain เลือกที่จะเสิร์ฟอาหารบรั๊นช์สไตล์อิตาเลียนและเมดิเตอร์เรเนียนที่ให้เราแวะไปทานได้ทั้งวัน เริ่มจาก “Green Curry Shrimp & Oak Leaves” (300 บาท) เมนูพิซซ่าที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นพิซซ่าหน้าสลัด ราดด้วยซอสแกงเขียวหวานกุ้ง เพิ่มความพิเศษด้วยแป้งบางกรอบสูตรพิเศษของร้าน โดยเมนูพิซซ่าของที่นี่ยังมีให้เลือกชิมอีกหลายหน้า ไม่ว่าจะเป็น Sundried Tomatoes & Homemade Cheese, Grape & Tum และ Smoked Salmon & Avocado ซึ่งทุกเมนูโดดเด่นด้วยผักสลัด
ต่อกันด้วยเมนูซิกเนเจอร์ยอดนิยมอีกตัวคือ “Seafood Black Nero” (280 บาท) เมนูพาสต้าเส้นดำผัดกับกุ้ง ปลาหมึก และหอยลาย ให้รสจัดจ้านจากพริกแห้งและพริกไทยแบบไทยๆ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ถูกปากคนไทยอย่างเรา ความอร่อยยังไม่จบ เพราะเรายังมีอีกหนึ่งเมนูเบาๆ เรียกน้ำย่อยอย่าง “Calamari Fritti” (220 บาท) ที่หลายคนรู้จักกันว่าเป็นเมนูปลาหมึกชุบแป้งทอดจนกรอบอร่อย เสิร์ฟพร้อมซอสรสเผ็ดสูตรลับของร้าน ความกรอบกับความหนึบของปลาหมึกทำให้เมนูนี้เป็นเมนูทานเล่นที่ไม่ควรพลาด
ปิดท้ายกันด้วยเมนูเครื่องดื่มที่เอาใจคนรักสุขภาพกับเมนู Detox Juice ที่มีให้เราเลือกดื่มถึง 5 ชนิด ทั้ง Purple Rain เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมขององุ่นแดง บีทรูท และกะหล่ำปลีม่วง, Orange Cloud เครื่องดื่มที่ผสมแอปเบิ้ล แครอท และส้ม, Red Storm แก้วนี้มีส่วนผสมของแอปเปิ้ล บีทรูท และมะเขือเทศเชอร์รี่, Yellow Sun ที่มีส่วนผสมของสับปะรด แอปเปิ้ล ส้ม และมะนาว ปิดท้ายด้วย “Green Day” (160 บาท) ที่เราเลือกชิม โดยแก้วนี้มีส่วนผสมของแอปเปิ้ล องุ่นเขียว คะน้า ผักโขม ขึ้นฉ่าย ขิง และมะนาว แต่หากใครไม่นิยมดื่ม Detox Juice ที่นี่ยังมีน้ำผลไม้เรียกความสดชื่น และเครื่องดื่มเมนูอื่นๆ อย่างชาและกาแฟให้เลือกดื่มอีกด้วย
After The Rain
Open: เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.
Address: ชั้น 1 Show DC
Tel: 02 203 1890
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development