บางครั้งสิ่งที่ตาเห็น…อาจไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป เมื่อเทคโนโลยีในปัจจุบันได้เข้ามามีอิทธิพลกับการใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้น “Deepfake AI” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง ณ ปัจจุบัน ถึงขนาดที่หน่วยงานเกี่ยวกับ Cybersecurity ของสหรัฐอเมริกาต้องจับตามองเป็นพิเศษ
หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ Deepfake AI คือเทคโนโลยีการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ผ่านกิจกรรม Deep Learning ซึ่งเป็นการเรียนรู้อัตลักษณ์ของบุคคลที่เฉพาะเจาะจงลงไปอย่างลึกซึ้ง เช่น ใบหน้า สีผิว รูปร่าง และท่าทางการเคลื่อนไหว แล้วจึงแสดงผลออกมาตามคำสั่งท่าทางที่ป้อนเข้าไป
ยกตัวอย่าง Deepfake AI ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคนก็มีตั้งแต่ การตรวจจับใบหน้าแล้วแท็กชื่อเพื่อนให้อัตโนมัติของ Facebook หรือ Filter เปลี่ยนทรงผม แต่งหน้า ทำท่าทางประหลาดๆ ของ Snapchat และ Instagram ก็ล้วนแล้วแต่ใช้หลักการจาก Deepfake AI เช่นเดียวกัน
นอกจากในบัญชีโซเชียลมีเดียแล้ว Deepfake AI ยังถูกนำไปใช้ในแวดวงอื่นๆ เช่นการทำ Deepfake Theater ซึ่งเป็นการจับเอาดาราที่ชื่นชอบไปอยู่ในภาพยนตร์เรื่องโปรด เช่น การให้ Tom Cruise ไปรับบทเป็น Iron Man แทน Robert Downey Jr.
หรือแม้แต่ในอุตสาหกรรมหนังโป๊ที่เริ่มจับเอาใบหน้าของดาราดังๆ มาให้ AI จำแล้วแทนที่ลงไปบนหน้าผู้แสดงหนังโป๊ด้วยเทคโนโลยี Deepfake ซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาราวกับว่านักแสดงคนนั้นๆ กำลังเล่นบทบาทบนเตียงอยู่อย่างถึงพริกถึงขิง
ถ้าอยากรู้ว่า Deepfake AI เนียนแค่ไหน อยากให้ชาว Gen C ลองดูวิดีโอโปรเจ็กต์ที่มีชื่อว่า Spectre ทางด้านล่าง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนิทรรศการที่สร้างความตกตะลึงแก่ผู้คนทั้งโลกถึงความแนบเนียนของ Deepfake AI จนทำให้ในบางครั้งเราไม่สามารถแยกออกว่า ที่พูดอยู่ตรงหน้านี่เป็นคนจริงๆ หรือถูกสร้างขึ้นมากันแน่
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก – http://billposters.ch/spectre-launch/