Easy E-Receipt อนุมัติแล้ว ข้อกำหนดปีนี้เป็นอย่างไร?

กลับมาอีกครั้งกับมาตรการ Easy E-Receipt 2568 สำหรับสายช้อปที่อยากใช้สิทธิ์ ลดหย่อนภาษี ช่วงต้นปี! ปีนี้ กรมสรรพากรยกระดับความสะดวกสบายในการใช้สิทธิ์ ‘ช้อปดีมีคืน’ ด้วยการสนับสนุนการใช้ e-Receipt หรือใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยลดขั้นตอนยุ่งยาก เพิ่มความโปร่งใส และยังตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ถ้ากำลังวางแผนช้อปเพื่อรับสิทธิ์ลดหย่อน ต้องอ่าน! บทความนี้จะพาไปเช็กทุกเงื่อนไขที่ควรรู้ รวมถึงสิ่งของที่ ‘ไม่รวม’ ในสิทธิ์ครั้งนี้

เงื่อนไขสำคัญของ Easy E-Receipt 2568 เปิดให้ใช้สิทธิ์ได้ในช่วงเวลา 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีเงื่อนไขดังนี้:

  1. ใช้ได้เฉพาะใบเสร็จ e-Receipt หรือ e-Tax Invoice ใบเสร็จที่นำมาใช้สิทธิต้องเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt หรือ e-Tax Invoice) และต้องมีข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อผู้ซื้อ, เลขผู้เสียภาษีของร้านค้า, วัน-เวลาการชำระเงิน และยอดเงิน
  2. ช่องทางชำระเงินครอบคลุมทุกวิธี สามารถชำระเงินได้ทั้ง เงินสด, บัตรเครดิต, บัตรเดบิต, QR Code, Mobile Banking หรือ e-Wallet ไม่จำกัดแค่ช่องทางดิจิทัล แต่ร้านค้าต้องมีระบบออกใบเสร็จ e-Receipt
  3. วงเงินลดหย่อนภาษี ผู้เสียภาษีสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 50,000 บาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน:
  4. วงเงิน 30,000 บาทแรก: สำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการทั่วไป
  5. วงเงินสูงสุด 50,000 บาท: สำหรับการใช้จ่ายร้านวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม และร้านค้า OTOP
  6. ใช้สิทธิกับร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการเท่านั้น ร้านค้าหรือผู้ให้บริการต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีระบบออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานที่กรมสรรพากรกำหนด
  7. สิ่งของและบริการที่ “ไม่รวม” ในเงื่อนไข ถึงจะครอบคลุมสินค้าหรือบริการจำนวนมาก แต่ก็มีบางประเภทที่ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ เช่น:
  8. สินค้าควบคุม เช่น แอลกอฮอล์และบุหรี่ เช่น ไวน์, เบียร์, สุรา, และบุหรี่ไฟฟ้าทุกประเภท
  9. ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับยานพาหนะ เช่น น้ำมันดีเซล, เบนซิน, หรือแก๊ส LPG
  10. ค่าบริการทางการแพทย์และการศึกษา เช่น ค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน หรือค่าธรรมเนียมการศึกษา
  11. ค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ค่าน้ำประปา, ค่าไฟฟ้า, ค่าโทรศัพท์ และค่าอินเทอร์เน็ต
  12. สินค้าหรือบริการที่ไม่มี VAT 7% เช่น ผักสด, ผลไม้สด, เนื้อสัตว์ และอาหารจากตลาดสด
  13. การทำประกันภัยและประกันชีวิต เช่น ค่าประกันชีวิต, ประกันสุขภาพ หรือประกันอุบัติเหตุ
  14. การซื้ออสังหาริมทรัพย์และรถยนต์ เช่น บ้าน, คอนโด, หรือรถยนต์ทุกประเภท

การลดภาษีจากการช้อป Easy E-Receipt จะได้ผลจริงตอนที่เรายื่นภาษีปีถัดไป ในกรณีนี้คือการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2568 ที่จะเริ่มช่วงต้นปี 2569 โดยเราต้องใช้ใบเสร็จ e-Receipt ที่ได้รับมาประกอบการยื่นลดหย่อน

วิธีใช้ง่ายมาก:

  1. เก็บไฟล์ e-Receipt ที่ได้จากร้านค้าในรูปแบบดิจิทัล เช่น ไฟล์ PDF หรือภาพถ่าย
  2. ใส่ยอดการใช้จ่ายตามวงเงินที่กำหนดในระบบยื่นภาษีออนไลน์ของกรมสรรพากร
  3. ตรวจสอบเอกสารประกอบการยื่น เช่น ใบเสร็จรับเงิน และหลักฐานการชำระเงินให้ครบ

เมื่อผ่านขั้นตอนนี้ สิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามมาตรการ Easy E-Receipt จะถูกคำนวณโดยอัตโนมัติและส่งผลต่อยอดภาษีที่เราต้องจ่าย ทำให้จ่ายน้อยลงหรือบางคนอาจได้ภาษีคืนด้วยซ้ำ

 

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top