NOTE:
– จากผลการสำรวจของ Imperative ที่ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างสมาชิก LinkedIn กว่า 40 ประเทศพบว่า กลุ่มคนยุคเบบี้บูมเมอร์ส มักให้ความสำคัญกับงานที่ตรงกับเป้าหมายชีวิตมากที่สุดถึงร้อยละ 48
– ตรงกันข้ามกับกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียลส์ที่ให้ความสำคัญกับเงินเดือนเป็นอันดับแรก ความก้าวหน้าและเป้าหมายในด้านอาชีพเป็นอันดับสอง สุดท้ายคือความสมดุลระหว่างชีวิตการงานและชีวิตในด้านอื่นๆ
– จากผลการสำรวจกลุ่มตัวอย่างเพศชายของ ดร. ออเดรย์ แกสกินส์ หัวหน้าทีมวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า บุคคลที่มีแนวโน้มขาดความกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่างๆรวมไปถึงการออกกำลังกาย มักจะมีปริมาณสเปิร์มที่อ่อนแอกว่าคนที่แอคทีฟเป็นประจำ
ขึ้นชื่อว่า “ความขี้เกียจ” ย่อมเป็นปัญหาที่กัดกินความเจริญก้าวหน้าจากใครหลายๆคน บ่อยครั้งที่เราย่ำอยู่กับที่เพียงเพราะการไม่อยากที่จะเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง หรือแม้กระทั่งการทำตัวเฉื่อยชาไม่พัฒนาตัวเองก็ทำให้คนอื่นๆที่มีความขยันนั้นแซงหน้าเราไปไกลได้
และถ้าชาว Gen-C คนไหนที่กำลังเริ่มรู้สึกเอื่อย เฉื่อยชา และขี้เกียจอยู่ล่ะก็ วันนี้เรามี How To เปลี่ยนแปลงตัวคุณเสียใหม่ให้กลายเป็นคนที่กระฉับกระเฉงมาฝากกัน รับรองทำตามได้ไม่ยากเลยครับ
1.มุ่งทำทีละอย่าง
บางทีการต้องทำอะไรหลายๆอย่างไปพร้อมๆกันก็อาจจะทำให้เราคิดว่าทุกอย่างมันเยอะไปหมดจนพาลให้กลายเป็นขี้เกียจทำทุกอย่างเอาได้ ทั้งนี้ลองเปลี่ยนวิธีการคิดเสียใหม่ด้วยการจัดระดับความสำคัญ ให้เรามุ่งเน้นไปที่การทำเป้าหมายที่สำคัญที่สุดให้ประสบความสำเร็จเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยทำเป้าหมายอื่นๆที่รองลงมา การเห็นเป้าหมายที่หวังไว้ค่อยๆสำเร็จไปทีละข้อ ย่อมก่อให้เกิดความมุ่งมั่นและกระฉับกระเฉงขึ้นอย่างแน่นอน
2.สร้างความตื่นเต้นให้กับชีวิต
หลายครั้งที่เราขาดความกระตือรือร้นเพียงเพราะต้องทำอะไรที่มันเดิมๆซ้ำซากอยู่ทุกวัน ลองเพิ่มเงื่อนไขที่สร้างความสุขให้กับตัวเองเข้าไป เช่น วันนี้ถ้าเคลียร์งานเสร็จก่อน 5 โมงเย็นจะแวะซื้อชาเขียวปั่นเจ้าโปรดกิน เท่านี้ก็เป็นการสร้างความตื่นเต้นให้กับตัวเองในแต่ละวันได้แล้ว
3.รายล้อมด้วยเป้าหมายที่ต้องการ
การเขียนเป้าหมายที่ต้องการจะทำแล้วนำไปแปะไว้ทุกๆที่รอบตัวเช่น หน้าตู้เสื้อผ้า กระจกห้องน้ำ โต๊ะทำงาน หรือแม้แต่หน้าคอมพิวเตอร์ ย่อมเป็นการเตือนสติตัวเราให้ไม่ลืมเป้าหมายได้ดีที่สุด และถึงแม้เราจะเกิดความขี้เกียจแต่ถ้าเราเห็นเป้าหมายผ่านตาในทุกๆที่ ก็อาจจะช่วยทำให้เราฉุกคิดและกลับมาเป็นคนที่กระตือรือร้นได้อย่างแน่นอน
4.ค้นหาแรงบันดาลใจ
การหาแรงบันดาลใจ สามารถทำได้ตั้งแต่การอ่านหนังสือไปจนถึงกับการพูดคุยกับบุคคลอื่นที่ประสบความสำเร็จ เช่น หัวหน้า พ่อแม่ หรือญาติพี่น้อง ซึ่งในบางครั้งเราอาจได้เห็นมุมมองที่แตกต่างและนำเอาวิธีรับมือกับปัญหาของพวกเขาเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับตัวเราก็เป็นได้
5.ให้กำลังใจตัวเองในแต่ละวัน
เชื่อหรือไม่ว่าคำพูดในด้านบวกย่อมทำให้เกิดพลังขับเคลื่อนอันมหาศาลในชีวิต ในแต่ละวันไม่ว่าเราจะเจอคำพูดแย่ๆหรืออะไรที่ไม่ดีมา ก่อนนอนทุกครั้งควรให้กำลังใจตัวเองพร้อมกับพูดในสิ่งที่อยากจะทำในวันรุ่งขึ้น เท่านี้ก็เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีและเติมความมุ่งมั่นให้กับชีวิตแล้ว
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development
