การดำเนินชีวิตในสังคมเมืองปัจจุบันนั้นต้องเจอความเร่งรีบและแข่งขันกับเวลา การได้กลับมายังบ้านที่เป็นสถานที่พักกายและใจ จึงเหมือนชาร์ตแบตให้คุณรวมถึงเป็นสถานที่ให้คุณได้มีพื้นส่วนตัว ดังนั้นการเลือกที่อยู่อาศัยจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับใครหลาย ๆ คน หากคุณเป็นคนตัดสินใจเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น ย่อมต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลาย ๆ ด้านเพื่อที่จะหาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์และสอดคล้องกับความต้องการ มาดูกันว่าคุณเหมาะกับการอยู่บ้านแบบไหน?
บ้านเดี่ยว
พักอาศัยในฝันของใครหลายคนด้วยลักษณะที่มีความเอกเทศออกจากบ้านหลังอื่น รวมถึงการออกแบบที่ดูดี ทั้งยังมีกำแพงและรั้วกั้นรอบตัวบ้านอย่างชัดเจน พร้อมด้วยพื้นที่ใช้สอย เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัยแบบครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังสามารถต่อเติมบ้านได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ภายในบริเวณบ้านสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งระหว่างครอบครัวได้ เช่น ออกกำลังกาย ตกแต่งสวน ปลูกต้นไม้ หรือจัดปาร์ตี้บาร์บีคิว ซึ่งภายในตัวบ้านยังมีห้องที่แบ่งเป็นสัดส่วนทั้งห้องรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ และที่จอดรถที่สะดวกสบาย แต่ด้วยมีพื้นที่เยอะเรื่องการดูแลรักษาทำความสะอาดก็ต้องเยอะตามด้วยและแน่นอนว่า บ้านเดี่ยวก็มีราคาค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน
ทาวน์โฮม
อีกหนึ่งตัวเลือกของผู้ที่มีงบประมาณไม่มากและต้องการพื้นที่ใช้สอยขนาดพอดี ไม่ใหญ่มาก เหมาะกับครอบครัวเล็ก ๆ ซึ่งตัวบ้านถูกออกแบบมาให้ใช้ผนังร่วมกัน และมีรั้วติดกันกับเพื่อนบ้าน เป็นข้อดีหากเกิดเหตุคับขันเพื่อนบ้านจะเข้ามาช่วยเหลือหรือช่วยดูแลยามไม่อยู่บ้าน อีกทั้งการดูแลรักษายังไม่เยอะเท่ากับบ้านเดี่ยว ปัจจุบันมีทาวน์โฮมในโครงการจัดสรรมากมายให้เลือก บางโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางให้ผู้อยู่อาศัยได้เติมเต็มการใช้ชีวิต ได้ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน อย่างเช่นห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ หรือสวนสาธารณะไว้สำหรับพักผ่อน นอกจากนี้บางโครงการของทาวน์โฮมยังตั้งอยู่ในทำเลที่ล้อมรอบด้วยสถานที่สำคัญและเป็นแหล่งชุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สนามบิน และสถานที่อื่น ๆ อีกมากมาย
คอนโด
ประเภทที่อยู่อาศัยที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับสังคมคนเมืองและกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางง่ายใกล้กับรถไฟฟ้า สถานที่ทำงาน สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และเป็นศูนย์กลางของความสะดวกสบาย เหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดเวลาในการเดินทางและใช้ชีวิตอิสระ ด้วยลักษณะห้องที่มีขนาดเล็กทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการดูแลทำความสะอาด ทั้งยังอุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังมีพื้นที่ส่วนกลางไว้บริการไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รวมถึงสวนสาธารณะที่มีไว้บริการให้กับผู้อยู่อาศัยได้ทำกิจกรรม ซึ่งบริการเหล่านี้ย่อมต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่ทุกคนภายในคอนโดต้องช่วยกันจ่ายเป็นประจำทุกปี ซึ่งเรียกกันตามภาษาปากว่า “ค่าส่วนกลาง” โดยเงินดังกล่าวจะถูกนำไปบำรุงพื้นที่ส่วนกลางให้อยู่สภาพที่ดีพร้อมใช้งาน แม้ค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายในปีหนึ่งอาจจะสูงถึงหลักหมื่น แต่ด้วยความสะดวกสบายที่ได้มาทำให้คนรุ่นใหม่ยอมที่จะจ่าย
เชื่อว่าผู้อ่านคงได้ไอเดียประเภทที่อยู่อาศัยและนำไปประกอบตัดสินใจเลือกซื้อบ้านให้ตรงตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละคน เพื่อให้บ้านเป็นสถานที่ที่ให้ทั้งความสุขสะดวกและความสุขแก่ผู้อยู่อาศัย
