อากาศเริ่มเกินไปหรือแอร์ไม่เย็นกันแน่ อย่าเพิ่งคิดว่าแอร์คุณเก่าและสมควรถูกปลดระวาง บางทีการล้างทำความสะอาดเสียบ้างอาจจะทำให้เครื่องปรับอากาศตัวเดิมของคุณกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เปิดแป๊บเดียวก็เย็นฉ่ำไปทั่วห้อง แต่ถ้าใครกังวลว่าต้องเปลืองเงินจ้างช่างมาล้างเป็นเรื่องเป็นราว เรามีคำแนะนำง่ายๆ ให้คุณลองหัดล้างแอร์ด้วยตนเอง พร้อมแล้วเริ่มกันเลย
เตรียมอุปกรณ์และพื้นที่ให้พร้อม :
ก่อนจะเริ่มลงมือ รวบรวมข้าวของที่ต้องใช้มาให้ครบก่อน ได้แก่ สายยางพร้อมหัวฉีด, ผ้ายางให้น้ำไหล, ถังไว้รองน้ำ, เทปกาวเพื่อติดผ้ายางไว้กับแอร์, น้ำยาล้างจานและฟองน้ำ, บันไดสำหรับปีน, ไขควง, และผ้าสะอาด เมื่อได้ของครบแล้วให้เคลียร์พื้นที่ใต้แอร์ของเราให้โล่ง และปิดสวิตช์ตรงเบรกเกอร์ให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย
เริ่มต้นล้างแอร์ :
การล้างแอร์ไม่ยากเลย ทำได้ตามขั้นตอนดังนี้
- ให้คุณเปิดฝาหน้าเครื่องออกแล้วถอดฟิลเตอร์กรองอากาศไปล้าง
- จากนั้นขันสกรูตัวรับสัญญาณรีโมทออกจากหน้ากาก
- ขันสกรูค่อยๆ ถอดหน้ากากและฝาครอบกลางออก
- ขันสกรูถาดน้ำทิ้งออก ถอดมอร์เตอร์สวิงออก แล้วถอดถาดน้ำทิ้งออกมาล้างตามลำดับ
- ถอดแผ่นกระจายลมออก ตอนนี้เราจะเห็นวงจรไฟฟ้าอยู่ ให้หาพลาสติกปิดไว้ไม่ให้โดนน้ำ
- นำผ้ายางที่เตรียมไว้ติดเข้ากับเครื่องเพื่อให้น้ำที่เราฉีดล้างไหลลงมายังถังที่เตรียมไว้
- ฉีดน้ำล้างแผงคอยล์ให้สะอาด อย่าให้โดนวงจรไฟฟ้า จากนั้นน้ำชิ้นส่วนต่างๆ ที่เราถอดออกมาไปทำความสะอาดให้เรียบร้อย
- หาเครื่องเปล่าลมใส่คอยล์หรือทิ้งไว้ให้แห้ง
- ประกอบชิ้นส่วนกลับเข้าที่ตามลำดับ
- ระหว่างที่รอให้คอยล์เย็นแห้งสนิท นำสายยางไปฉีดทำความสะอาดคอยล์ร้อนด้านนอกบ้านด้วย (ไม่ต้องถอดชิ้นส่วน)
- เมื่อชิ้นส่วนแห้งดีแล้วให้ทดลองเปิดแอร์ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
การล้างแอร์ด้วยตนเองอาจฟังดูยุ่งยาก แต่เชื่อเราเถอะว่าถ้าลองทำจริงๆ แล้วมีขั้นตอนไม่ซับซ้อนเลย จุดสำคัญคืออย่าให้น้ำกระเด็นโดนแผงวงจรซึ่งอาจจะทำให้เครื่องเสียหายได้ นอกจากนี้อาจจะใช้โฟมสำหรับล้างแอร์หรือน้ำยาทำความสะอาดร่วมด้วยก็ได้ โดยปกติแล้วเราควรล้างแอร์เฉลี่ยทุก 6 เดือนเพื่อประสิทธิภาพการทำงานและเป็นการยืดอายุของแอร์ไปในตัวด้วย ชาว GEN C ที่อยากลองทำอะไรเองก็นำวิธีการนี้ไปใช้ได้เลย ไม่ต้องง้อให้ช่างมาช่วยและประหยัดเงินไปได้หลายร้อยเลยทีเดียว