การลงทุนเป็นสิ่งที่ทำได้ทุกเพศทุกวัย และทุกคนนั้นสมควรจะลงทุนเพื่อให้เรามีเงินออมไว้ในในบั้นปลาย หรือสร้างความมั่งคั่งเพิ่มเติมขึ้นจากการทำงานประจำ แต่การลงทุนด้วยกลยุทธ์เดียวกันไม่ได้เหมาะกับคนทุกวัย เพราะต่างก็มีรูปแบบการใช้ชีวิตและความต้องการแตกต่างกัน เมื่อเวลาผ่านไปเราจึงต้องกลับมานั่งทบทวนว่า แนวทางการลงทุนที่เราใช้อยู่นั้นยังเหมาะสมหรือไม่และควรจะปรับเปลี่ยนไปในทิศทางไหนดี
เด็กจบใหม่ วัยแห่งการโลดโผน :
เรื่องน่าตลกอย่างหนึ่งที่มักเกิดขึ้นคือ วัยรุ่นหรือคนที่เพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ เป็นวัยที่เหมาะจะลงทุนมากที่สุด แต่น้อยคนนักที่จะคิดถึงเรื่องการลงทุนในช่วงนี้ ผู้คนในวัยนี้จะเริ่มต้นด้วยรายได้ที่ไม่มาก แต่รายจ่ายก็น้อยเช่นกัน พร้อมกับมีความกล้าได้กล้าเสียกล้าเสี่ยงลงทุน และหากล้มเหลวจริงๆ ก็ยังมีเวลาฟื้นตัวอีกมาก คนในวัยนี้มีอิสระจะเลือกลงทุนในสินทรัพย์แบบไหนก็ได้ แต่หากจะให้ดีควรจัดสรรเงินส่วนใหญ่ของพอร์ตไปลงไว้หุ้น คริปโต หรือสิ่งที่ผัวผวนสูง และแบ่งส่วนไว้เพื่อเริ่มต้นแผนการออมระยะยาว เช่น กองทุนหรือเงินฝากประจำ
วัยทำงาน ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ :
เมื่อทำงานไปสักระยะหนึ่ง เราสามารถเติบโตจากหน้าที่การงานและสร้างรายได้มากขึ้น บางคนอาจจะมีรายรับมากกว่าหนึ่งทาง แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว อาทิ ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือการสร้างครอบครัวก็ต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ สำหรับชีวิตคู่ หรือวางแผนสำหรับลูก ฉะนั้นคนวัยนี้จึงต้องเลือกกลยุทธ์การลงทุนอย่างจริงจัง รอบคอบ จำกัดความเสี่ยงให้แคบลง เช่นการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลงเหลือเพียง 50% แบ่ง 30% ไปลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าอย่างกองทุน พันธบัตรหรือทองคำ และส่วนที่เหลือเก็บออมในลักษณะประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพที่จะได้เงินคืนเมื่อครบสัญญา
วัยใกล้เกษียณ ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผล :
โค้งสุดท้ายของการทำงานซึ่งหมายถึงเราจะมีรายรับที่แน่นอนอีกเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น สิ่งที่ต้องคิดคือผลจากการลงทุนของเราสามารถหล่อเลี้ยงชีวิตไปจนตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า โดยมีหลักการคือเราควรมีเงินใช้ประมาณเดือนละ 20,000 บาท (เป็นอย่างน้อย) ไปอีก 20 ปีหลังจากวันเกษียณ กลยุทธ์ของคนวัยนี้ตรงข้ามกับคนที่เริ่มทำงานอย่างสุดขั้ว กล่าวคือคุณจะไม่สามารถแบกรักความเสี่ยงสูงๆ ได้อีกต่อไปแล้ว ลองจัดสรรพอร์ตใหม่ให้เหลือหุ้นอยู่ประมาณ 30% ของพอร์ต ส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในเงินฝากหรือสินทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย เช่น ทองคำ หรือลองมองหาช่องที่จะสร้างรายได้แบบ Passive Income ที่เราไม่ต้องออกแรงมาก เช่น ทำบ้านเช่า หอพัก หรืออื่นๆ ก็ได้เช่นกัน
การลงทุนเป็นศาสตร์และศิลป์ของคนแต่ละช่วงวัย แต่สิ่งที่แน่นอนคือยิ่งเราเริ่มลงทุนได้เร็วเท่าไหร่ เราก็จะวางแผนชีวิตในอนาคตได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้เราควรต้องบริหารพอร์ตการลงทุนให้สัมพันธ์กับการใช้ชีวิตส่วนตัวด้วย หากลงทุนมากเกิน จนไม่สามารถมีความสุขกับการใช้จ่ายได้ก็คงไม่ดีเช่นกัน ชาว GEN C ลองเฉลี่ยความสุขให้ลงตัวทั้งปัจจุบันและอนาคตกันนะครับ