อย่าปล่อยให้บ้านป่วย เพราะบรรยากาศของบ้านส่งผลต่อความรู้สึก! วันนี้จึงชวนมาสำรวจบ้าน พร้อมกับการเปลี่ยนบ้านให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น มาลองดูกันว่าบ้านของคุณมีจุดอ่อนตรงไหน แล้วควรแก้ไขอย่างไรกันครับ
- อย่าปล่อยให้บ้านมืด เพราะจะทำให้ซึมเศร้า
บ้านที่มีบรรยากาศอึมครึมและมืด โดยปราศจากแสงธรรมชาติหรือมีแสงธรรมชาติน้อย เพราะจะส่งผลต่อความรู้สึก โดยบ้านที่มืดจะทำให้รู้สึกซึม ไม่กระปรี้กระเปร่า คิดงานไม่ออก ฯลฯ นั่นเพราะในแสงธรรมชาติจะมีคลื่นแสงสีฟ้า ที่เรียกว่า Daylight ซึ่งสามารถบำบัดอารมณ์ซึมเศร้าได้ แต่เมื่อบ้านขาดแสงธรรมชาติแล้ว บ้านกจะให้ความรู้สึดหดหู่ ไม่น่าอยู่
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอื่นๆ พบว่าระหว่างวันหากไม่ได้รับแสงธรรมชาติ Daylight จะส่งผลให้นาฬิกาชีวภาพเดินช้าลง 1.1 ชั่วโมงในทุกๆ 24 ชั่วโมง เป็นผลให้นอนหลับยากขึ้นนั่นเอง
- แสงไฟโต๊ะรับประทานอาหาร เลือกแสงผิดอาจทำให้เบื่ออาหารได้
เริ่มจากโซนรับประทานอาหาร หากใครรู้สึกว่า ทำไมอาหารในแต่ละมื้อถึงดูไม่น่ารับประทาน? นั่นอาจเป็นเพราะว่าคุณใช้ไฟ Daylight หรือแสงสีขาว ซึ่งเป็นผลให้สีของอาหารดูซีดจาง ไม่ชวนรับประทานจนอาจนำไปสู่อาการเบื่ออาหาร
สำหรับไฟเหนือโต๊ะรับประทาน ควรเป็นแสงสีส้มหรือ Warm White ที่จะช่วยเสริมสีสันให้อาหารดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุนควาอยากอาหาร แนะนำเป็นไฟแสงสีส้มที่มีค่าอุณหภูมิของแสงที่ 3000K
- ปูพรมทั่วบ้านให้ความสวยงาม แต่อาจเป็นกับดัก ก่อภูมิแพ้
การปูพรมแม้จะทำให้บ้านสวยงาม แต่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่อาจก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ นั่นเพราะพรมเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย หลายคนจึงเลือกให้บ้านไม่มีพรม เพื่อจบปัญหาเหล่านี้ แต่หากคุณอยากมีพรมเพิ่มความสวยงามให้บ้านอยู่ แนะนำว่าให้เลือกพรมที่เหมาะกับสภาพอากาศของไทย รวมทั้งเหมาะกับการใช้งาน
แนะนำให้เลือกพรมที่เป็นวัสดุระบายความชื้นได้เร็ว หรือพรมที่ไม่ดูดซับความชื้อ โดยแนะนำให้เป็นพรมขนสั้น เพื่อช่วยลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อรา รวมทั้งยังทำความสะอาดง่าย นอกจากพรมที่ผลิตจากเส้นใยพืช ยังเป็นแหล่งอาหารของเชื้อรา ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงพรมที่ทำมาจากเส้นใยพืช รวมทั้งพรมขนสัตว์ แต่ให้เลือกพรมที่เป็นวัสดุใยสังเคราะห์แทน
- มลภาวะจากเสียง ชวนให้อารมณ์เสีย
ลองสังเกตเสียงรอบบ้านหน่อยไหม เพราะเสียงดังส่งผลให้เราหงุดหงิดได้ เนื่องจากเสียงส่งผลต่อการรับรู้ของสมองและร่างกาย หากความดังของเสียงอยู่ในช่วงที่ดี เราอาจรู้สึกเพลิน ผ่อนคลาย ในทางตรงข้ามหากเป็นเสียงที่ดังเกินไปที่เรียกว่า “เสียงรบกวน” จะส่งผลต่อความรู้สึกและสุขภาพเรา ชวนให้หงุดหงิด อารมณ์เสียง่ายนั่นเอง
วิธีป้องกันเสียงดังจากภายนอกบ้าน อย่างเสียงรถบนถนน เสียงคนข้างห้อง ฯลฯ คือ ให้ปลูกต้นไม้เป็นแนวกรองเสียง รวมทั้งปิดหน้าตาหรือประตูเพื่อกั้นเสียงรบกวน
ส่วนเสียงภายในบ้านหรือภายในอาคาร เช่น เสียงเปิดโทรทัศน์ เสียงทำอาหาร ฯลฯ แนะนำให้ปิดรูที่ทำให้เสียงลอดเข้ามาในบ้าน รวมทั้งการวางแปลนบ้าน โดยแยกห้องที่คาดว่าจะมีเสียงดังให้อยู่ห่างจากห้องนอนหรือมุมทำงานที่ต้องการความเงียบ เป็นต้น
- บ้านร้อนตลอดเวลา เพราะหันบ้านผิดทิศ
อยากอยู่บ้านให้สบาย อุณหภูมิในบ้านมีผล! โดยบ้านที่อยู่สบายควรมีอุณหภูมิที่ 22-27 องศาเซลเซียส แต่หากบ้านร้อนกว่าอุณหภูมินี้ จะทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
สิ่งสำคัญของการปรับอุณหภูมิบ้านให้อยู่สบาย นอกจากตัวช่วยอย่างเครื่องปรับอากาศแล้ว ทิศของบ้านก็สำคัญ โดยการออกแบบบ้านให้ถูกทิศ หลบแดดได้ แต่เปิดรับลมจะช่วยให้บ้านน่าอยู่และอยู่สบายยิ่งขึ้น
เริ่มจากทิศของ “ลม” ซึ่งลมจะมีทิศทางที่พัดประจำอยู่ 2 ช่วงของปีคือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – กันยายนจะลมประจำทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้ ส่วนช่วงเดือนตุลาคม – มกราคม จะเป็นลมทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศเหนือ แต่ทั้งนี้เรื่องทิศของลมยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เพราะบางครั้งหากมีตึกใหญ่มาบดบังทิศของลมได้เช่นกัน
ทิศของแดด ซึ่งหากห้องรับแดดโดยตรงย่อมทำให้อุณหภูมิสูง ชวนร้อน ไม่อึดอัด และชวนหงุดหงิดนั่นเอง ดังนั้นการเลือกพิจารณาซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม จำเป็นต้องสอบถามเรื่องทิศของแดดให้ชัดเจน ก่อนตัดสินใจซื้อ
โดยทิศของ “แดด” นั่น ในช่วงเดือนพฤกษภาคม – สิงหาคม แดดจะขึ้นจากทิศตะวันออก แล้วค่อยๆอ้อมไปทางทิศเหนือ และเอียงต่ำในทิศตะวันตกในช่วงเย็น ขณะที่เดือนมกราคม – เมษายน แดดจะขึ้นจากทิศตะวันออก แล้วค่อยๆ อ้อมไปทางทิศใต้ สุดท้ายเอียงต่ำในทิศตะวันตก ทั้งนี้การออมของแดดนี้เอง ส่งผลต่อการเอียงทำมุมของอาคารที่มีผลต่อการถ่ายเมความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ดังนั้นการทำความเข้าใจเรื่องทิศของอาคารกับทิศของแดดจึงช่วยให้ห้องหรือบ้านไม่รับแดดเต็มๆ อุณหภูมิในห้องก็จะไม่สูงชวนร้อนอบอ้าว
ทั้งหมดนี้คือ จุดอ่อนเล็กๆ ที่หลายคนมักมองข้าม แต่ส่งผลกระทบต่อการพักอาศัยและสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ลองมาปรับเปลี่ยนบ้านให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นกันครับ
