ช่วงนี้หลายคนคงได้ยินคำว่า ‘Manifest’ กันบ่อยขึ้น หรือถ้านิยามสั้นๆก็คือ ‘กฎแรงดึงดูดของจักรวาล’ วิธีการนี้ก็คือการที่เราสร้างความคิดที่อยู่ในหัวเพื่อดึงดูดสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้น หรือทำให้สิ่งที่เราปรารถนาได้กลายเป็นจริง โดยคีย์เวิร์ดสำคัญของ Manifestation นั่นก็คือ ต้องมีภาพของสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจนมากที่สุดในหัวของเรา มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าเราจะสามารถทำสิ่งนั้นให้สำเร็จได้ และในที่สุดสิ่งนั้นจะปรากฏขึ้นเป็นจริง นี่คือคอนเซปต์คร่าวๆของ Manifestation แล้วหลักการอื่นๆจะมีอะไรอีกบ้าง ติดตามต่อได้เลย
ขั้นตอนง่ายๆของการเริ่ม Manifestation ถือว่าไม่ยากเลย เพราะทุกอย่างเริ่มจากที่ตัวเราทั้งนั้น
1. หาคำตอบให้ตัวเองว่า อะไรคือสิ่งคุณต้องการจริงๆ จากนั้นมโนภาพของเราให้ชัดเจนที่สุดในหัว พยายามจินตนาการเหมือนเรื่องราวนั้นกำลังอยู่ตรงหน้าเราจริงๆ เช่น ถ้าอยากมีบ้าน ให้รู้สึกว่าเรากำลังถือพวงกุญแจบ้าน โทนสีของบ้าน ฟีลลิ่งที่นั่งอยู่ในบ้าน เป็นต้น
2. จดบันทึกลงไปบนกระดาษอย่างสม่ำเสมอ หลังจากทำข้อแรกเรียบร้อยแล้ว ให้เราเขียนสิ่งนั้นลงบนกระดาษหรือสมุดอย่างต่อเนื่อง เขียนให้ละเอียดเหมือนภาพที่เราคิดไว้ เพื่อตอกย้ำความต้องการของเราให้หนักแน่นมากขึ้น
3. ใช้คำที่มีความหมายสื่อถึงความเป็นไปได้และความหมายเชิงบวก ข้อสำคัญเลยคือห้ามใช้คำพูดที่แสดงถึงความคิดด้านลบหรือแสดงถึงความเป็นไปไม่ได้ เช่น ถ้าเราอยากมีคนรักดีๆ ควรพูดว่า “ฉันควรคู่กับความรักดีๆและฉันมีคนรักที่ดี ” ห้ามพูดคำที่ดูถูกตัวเองเชิงลบเป็นอันขาด เช่น “ฉันทำไม่ได้” “ฉันไม่มีค่า” พลังลบเหล่านี้จะบั่นทอนแรงดึงดูดดีๆให้ไกลตัวเราออกไป
4. หมั่นขอบคุณตัวเอง เพราะการขอบคุณตัวเองคือสิ่งหนึ่งที่แสดงถึงการเคารพและรักตัวเอง ช่วยเสริมสร้างกำลังใจและคุณค่าให้ตัวเอง เพราะเมื่อเรามีพลังบวกก็จะช่วยดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต
5. ไม่เร่งรัดในผลลัพธ์ จงเชื่อในจังหวะและเวลา แค่มีความเชื่อมั่นในกระบวนการทำงานของจักรวาล ตราบใดที่เรายืดหยุ่นและให้เวลาจักรวาลได้ทำหน้าที่ สิ่งที่เรา Manifest ไว้ก็จะเดินทางมาหาเราแบบไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า Manifestation เป็นเรื่องลี้ลับงมงาย แต่สามารถอธิบายได้ในเชิงวิทยาศาสตร์และตามหลักจิตวิทยาเช่นเดียวกัน โดยมีงานวิจัยที่สอดคล้องกันว่า ถ้าเรามีความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง บอกตัวเองว่าเราทำได้แค่นี้ก็ถือเป็นการสร้างกำลังใจให้เราพยายามทำตามที่ตั้งจิตไว้จนเกิดเป็นผลสำเร็จ สิ่งนี้ถือเป็นความจริงของสากลโลก เพราะความเชื่อของเราย่อมส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของตัวเอง แค่คิดดีทำดี ก็จะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นกับเราแน่นอน