หากเราดูหนัง Sci-fi หลายๆเรื่อง ที่จำลองสถานการณ์ของโลกอนาคต แบบที่การใช้ชีวิตช่างง่ายดายเสียเหลือเกิน ด้วยเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาช่วย เราอาจจะนึกฝันว่า สักวันมันจะเกิดขึ้นไหม หากเกิดขึ้นได้ แล้วจะอีกนานแค่ไหนกัน แต่วันนี้โลกกำลังขยับเข้าไปใกล้มันมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว เพราะเรากำลังขยับเข้าสู่ยุค Metaverse อย่างไม่หยุดยั้ง
ว่าแต่ Metaverse คือ อะไร วันนี้เรามีคำตอบครับ
Metaverse เป็นศัพท์ที่เริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในปัจจุบัน เกิดจากการรวมกัน ของคำว่า Meta ที่แปลว่าเหนือขึ้นไป ดียิ่งกว่า (แปลคล้ายกับคำว่า beyond) และคำว่า universe ที่แปลว่าจักรวาล ดังนั้นเมื่อรวมกัน คำว่า metaverse จึงหมายถึง จักรวาล หรือยุคสมัย หรือโลกที่กำลังก้าวหน้าขึ้นไป ในเชิงของเทคโนโลยีแล้ว ก็หมายถึง การคิดค้น ประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ รวมเข้ากับองค์ความรู้ทั้งที่รุดหน้า เพื่อสรรค์สร้างโลกเสมือนจริง หรือ virtual worlds ขึ้นมา ที่ที่เราสามารถใช้ชีวิตที่โลกนั้นได้ แบบไร้รอยต่อกับโลกแห่งความจริง
ซึ่งสิ่งที่ทำให้ Metaverse รุดหน้าไปได้ไกล สาเหตุหนึ่งมาจากการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่ผลักดันให้คนต้องใช้ชีวิตในวิถีใหม่ (new normal) มีการเว้นระยะห่างทางสังคม จึงต้องมีการคิดค้นกรรมวิธีต่างๆ ที่จะทำให้ยังสามารถใช้ ชีวิตได้แบบเดิมในสถานการณ์เหล่านี้ได้
ที่เห็นได้ชัดเจนคือ การที่หลายๆออฟฟิตทั่วโลก ที่เริ่มมีนโยบายผลักดันให้คนต้อง work from home มากขึ้น จากมาตรการการล็อกดาวน์ต่างๆ ส่งผลให้คนต้องเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่เกี่ยวกับงาน และการเรียน เช่น การประชุมออนไลน์ สัมมนาออนไลน์ สัมภาษณ์ออนไลน์ ส่งงาน อนุมัติงานออนไลน์ เรียนออนไลน์ หรือเรื่องส่วนตัวต่างๆ เช่น การสั่งอาหารออนไลน์ การช้อปปิ้งออนไลน์ เป็นต้น จึงไม่แปลกใจนักหากวันนี้ทุกธุรกิจทั่วโลก ต่างหันแนวทางการทำธุรกิจ เพื่อมุ่งมาทางนี้อย่างเต็มตัว
เราลองมาดูตัวอย่างของเทคโนโลยีที่จะพาเราเข้าสู่ยุค Metaverse กันดีกว่าครับ
1. Cryptocurrency
สำหรับคนที่อยู่ในวงการการลงทุน คงคุ้นเคยกับสกุลเงินดิจิตัลตัวนี้เป็นอย่างดี และพัฒนาขึ้นอย่างมากใน 3-4 ปีนี้ เหตุผลหนึ่งก็เพราะแบรนด์ หรือสินค้าต่างๆ โดดลงมาร่วมด้วย กับการเปิดให้ชำระค่าสินค้า และบริการด้วยเงินดิจิตัลได้ (คลิกอ่าน อนันดาให้คุณใช้คริปโตซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าและบ้านได้แล้วทุกโครงการ) อีกทั้งยังมีบริษัทที่ตั้งอย่างถูกต้องในหลายๆประเทศ เพื่อดำเนินกิจการเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ เช่น Bitkub ที่ให้บริการเทรดเหรียญดิจิทัล ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจาก กลต.ประเทศไทย ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าเงินเสมือนจริงเหล่านี้ สามารถใช้ดำรงชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริงได้เช่นกัน ดังนั้น ในอนาคตเราอาจไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวอีกเลยก็เป็นได้
2. Smart Glass
เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าพ่อ FB อย่างมาร์ค ซัคเคอร์เบิก สร้างความฮือฮาให้กับโลก social ไม่น้อย กับการจับมือร่วมกับ Ray-Ban แบรนด์แว่นตาระดับโลก เปิดตัว Smart Glasses ในชื่อ ‘RAY-BAN STORIES’ ที่จะย่อโลก มาไว้ใกล้ตาคุณยิ่งขึ้น เพราะแว่นตาสุดล้ำตัวนี้ จะช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ง่ายเพียงแค่สวมแว่น โดย Features ของแว่นตัวนี้ประกอบไปด้วย
- สามารถถ่ายรูป วิดีโอได้ ด้วยกล้องความละเอียด 5MP ที่ฝังในตัวแว่น
- ใช้แว่นในการควบคุมอุปกรณ์ เช่น เล่นเพลง กดถ่ายรูป หรือถ่ายวิดีโอ
- สั่งการด้วยเสียงผ่าน facebook assistant
เรียกได้ว่า gadget ตัวนี้มาเขย่าวงการ Metaverse ให้เข้าใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม ของแว่นนี้ได้ที่นี่
3. Influencer ในรูปแบบ AI
หากใครอยู่ในวงการบันเทิง โดยเฉพาะวงการ K Pop คงจะรู้จักกลุ่มศิลปินน้องใหม่ของเกาหลีใต้ ที่เปิดตัวได้ราวๆ 1 ปี จากค่าย SM Entertainment อย่าง เอสป้า (Aespa) ที่ประกอบไปด้วยสมาชิก 4 คน และ Avatar อีก 4 ตัว (หรือที่เรียกว่า æ) โดยตัว avatar เหล่านี้ปรากฏทั้งใน MV และ live performance ต่างๆด้วย ถือเป็นการก้าวกระโดดสู่ metaverse ไปเรื่อยๆของวงการบันเทิง และยิ่งตอกย้ำความล้ำไปอีก เมื่อธนาคารยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้อย่าง KB Kookmin Bank ประกาศจับมือกับ SM Entertainment เปิดตัวเอสป้า (พร้อม Avatar ทั้ง 4 ตัว) เป็นพรีเซนเตอร์ของธนาคาร เป็นการประกาศให้รู้ไปในตัวว่า ธนาคารแห่งนี้ จะมุ่งสู่ความเป็นธนาคารแห่งยุคดิจิตัลอย่างเต็มตัว
และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคปัจจุบัน ที่สามารถสรรค์สร้างตัว Avatar ให้มีความใกล้เคียงคนอย่างมาก ในอนาคตเราอาจได้เห็นพรีเซนเตอร์ที่เป็นรูปแบบคนเสมือนจริงมากขึ้นแทน เพราะนอกจากจะสามารถทำงานได้หลากหลายแล้ว Avatar ยังสามารถพัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหมดอายุ ไม่มีวันเกิด แก่ เจ็บตายอีกด้วย เหมือนเหล่าตัวการ์ตูนในดวงใจที่ยังคงโลดแล่นได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน
ภาพจากอนิเมชั่น 3D จากประเทศจีน เรื่อง ‘ตำนานเกาะพิศวง’ ที่พัฒนาจนตัวละครมีความสมจริงใกล้เคียงคนจริงๆมากขึ้น คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมของอนิเมชั่นเรื่องนี้
4. VR Game
หากใครเป็นสายเล่นเกมส์ คงไม่แปลกใจอีกต่อไป ที่วันนี้เกมส์ออนไลน์ต่างๆ พัฒนาขึ้นอย่างมาก จนทำให้เราสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเกมส์ได้อย่างแนบเนียน และหลายๆคนสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ จากการเล่นเกมส์ โดยสิ่งที่ทำให้การเล่นเกมส์ไม่ใช่เรื่องเล่นๆอีกต่อไป เมื่อมีการเปิดการแข่งขัน e-Sport ที่เกิดขึ้นทั่วโลก และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลายๆคนก้าวเข้าสู่วงการนี้อย่างเต็มตัวมากขึ้น
ซึ่งเกมส์ออนไลน์เหล่านี้ เรียกได้ว่าเข้าใกล้ยุค Metaverse มากที่สุด เพราะเราสามารถจำลองตัวตนของเราเข้าไปโลดแล่นอยู่ในโลกเสมือนจริงได้ทั้งตัว ผ่านการสวมใส่แว่น VR หรือการนำโลกของเกมส์มาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ผ่านเทคโนโลยี AR ดังนั้นในอนาคต เราจะสามารถเพลิดเพลินกับหลายๆกิจกรรมทีบ้านได้มากขึ้น
5. Real estate : Virtual Tour
ในช่วงของมาตรการ lock down ที่ทำให้การไปเยี่ยมชมโครงการที่สำนักงานขายเป็นไปได้ยาก แต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายๆ ที่ เริ่มมีการนำ Virtual Tour Live เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการให้ข้อมูลลูกค้า แบบที่ไม่ต้องก้าวออกจากบ้าน ก็สามารถเห็นภาพจริงของโครงการ และยังสามารถคุยตรงกับเจ้าหน้าที่ หรือให้เจ้าหน้าที่พาชมโครงการ เสมือนนั่งอยู่ที่โครงการได้เช่นกัน (คลิกดู 360 Virtual Tour Live จากอนันดา) และหากสนใจจะจองแล้ว ก็สามารถจองออนไลน์ได้ทันที
การปรับตัวอย่างยิ่งใหญ่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ ช่วยขยายให้เห็นภาพของการก้าวเข้าสู่ยุค metaverse มากขึ้น ในอนาคตเราอาจสามารถจำลองตัวเอง หรือใช้เทคโนโลยี AR และโฮโลแกรม ฉายภาพโครงการจริงได้แม้ว่าเรานั่งอยู่ที่บ้าน และสามารถเดินสำรวจได้จริง เสมือนหนึ่งเดินที่สำนักงานขายก็เป็นได้
เชื่อว่าไม่นานเกินรอ ยุค Metaverse จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของเราอย่างมาก อาจจะถึงเวลาแล้วที่เราต้องขยับ เรียนรู้เทคโนโลยี และปรับตัวเพื่อก้าวให้ทันยุคที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้งสักที
ที่มาของข้อมูล
https://www.reuters.com/technology/what-is-metaverse-how-does-it-work-2021-09-08/
https://n.news.naver.com/entertain/article/312/0000502951