NOTE:
– จากแบบจำลองการคาดคะเนภูมิอากาศพบว่าในช่วงปี พ.ศ. 2544 ไปจนถึง 2643 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มขึ้นราวๆ 1.1 – 6.4 องศาเซลเซียสอันเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน
– จากข้อมูลของศูนย์หิมะและน้ำแข็งประเทศสหรัฐอเมริกา (NSIDC) พบว่าปริมาณน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกใต้และขั้วโลกเหนือมีปริมาณลดลงมากที่สุดในรอบ 35 ปี นั่นหมายความว่าปริมาณน้ำในทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นถ้าหากน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกยิ่งละลาย
นับเป็นเรื่องตลกร้าย ที่ภาวะน้ำแข็งขั้วโลกละลายก่อให้เกิดเส้นทางเดินเรือใหม่ที่เรียกว่า “Northwest Passage” ซึ่งจะช่วยย่นระยะทางจากจีนไปเยอรมนีได้กว่า 2,800 ไมล์ทะเล และยิ่งถ้าน้ำแข็งขั้วโลกละลายหมดก็จะยิ่งลดเวลาเดินเรือได้อย่างมหาศาล ซึ่งอาจจะต้องแลกมากับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
“ภาวะโลกร้อน” นับเป็นปัญหาระดับโลกที่หลายๆประเทศต่างตระหนักและพยายามทุกวิถีทางให้ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นได้ช้าที่สุดไม่ว่าจะเป็น การควบคุมภาคผลิตในระบบอุตสาหกรรมที่มักจะปล่อยของเสียออกมา การค้นหาพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนจากธรรมชาติมาใช้งานแทนทรัพยากรโลกอย่างถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน ที่ใกล้จะหมดไปมากขึ้น
ธนาคารเมล็ดพันธุ์พืชโลกสวาลบาร์ด หรือ Svalbard Global Seed Vault ก็เป็นอีกหนึ่งในมาตรการรับมือภาวะโลกร้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 โดยในธนาคารแห่งนี้จะรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืชที่สำคัญจากทั่วโลกเอาไว้กว่า 135,000 ชนิด เช่น ข้าวสาลี ข้าวฟ่าง ข้าวบาร์เลย์ ถั่ว มันฝรั่ง เผื่อใช้ในยามฉุกเฉินและการทดลองปรับปรุงสายพันธุ์ ซึ่งแหล่งที่ตั้งของธนาคารนี้จะซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาบริเวณนอร์เวย์ที่ที่หนาวเหน็บและสามารถรักษาเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ให้อยู่รอดตลอดไปได้เป็นร้อยๆปี
แต่ด้วยภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนืออันเป็นที่ตั้งของธนาคารนี้เริ่มละลายและไหลซึมเข้าไปยังปากอุโมงค์ทางเข้า หน่วยงานผู้ดูแลธนาคารจึงต้องเร่งติดตั้งกำแพงป้องกันน้ำท่วมอย่างเร่งด่วนรวมไปถึงการก่อสร้างทางระบายน้ำเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้น้ำเข้าถึงห้องเก็บเมล็ดพันธุ์ได้
ทั้งนี้เมล็ดพันธุ์พืชส่วนใหญ่ยังปลอดภัยดี โดยเจ้าหน้าที่ได้เผยว่านี่เป็นเพียงมาตรการป้องกันน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพียงเท่านั้น
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก:
https://hilight.kapook.com/view/112399
http://www.bbc.com/thai/international-39989904