งานประกาศรางวัล Academy Awards หรือ Oscar 2022 กำลังจะเกิดขึ้นในเช้าวันที่ 28 มีนาคม 2565 ตามเวลาประเทศไทย และรางวัลใหญ่ที่สุดที่ทุกคนต่างลุ้นกันก็คือ ใครจะได้ขานชื่อให้เป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดหรือ Best Picture ประจำปีนี้ โดยรายชื่อหนังที่เข้ารอบสุดท้ายมีมากถึง 10 เรื่องเลยทีเดียว ไม่ต้องเสียเวลา เราไปดูกันดีกว่ามีเรื่องอะไรกันบ้าง แล้วเรื่องไหนที่คุณคิดว่าจะชนะในปีนี้
Belfast :
นี่คือหนังขาวดำกึ่งชีวประวัติของเคนเนธ บรานาห์ ซึ่งเป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้เองอีกด้วย หนังเล่าเรื่องความรุนแรงของชาวไอร์แลนด์เหนือกับทหารอังกฤษผ่านสายตาของเด็กชายที่กำลังจะข้ามวัยไปเป็นเด็กหนุ่ม โดยเรื่องราวเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำของชนชั้นทางสังคม หนังเป็นเจ้าของรางวัล People’s Choice Award จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต และถูกใจนักวิจาร์อย่างมาก ต้องดูกันว่าหนังจะไปได้ไกลแค่ไหนบนเวที Oscar
CODA :
ชื่อหนังย่อมาจาก “Child of Deaf Adults” หรือลูกของพ่อแม่ที่มีหูพิการ โดยเล่าเรื่องของเด็กสาวที่เติบโตมาในครอบครัวชาวประมงที่มีแต่คนพิการทางหู และเธอเป็นเสาหลักในการสื่อสารระหว่างครอบครัวและคนอื่นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อเด็กสาวได้รับทุนการศึกษาที่จะพาเธอจากครอบครัวไป แล้วเด็กสาวจะเลือกทางเดินชีวิตอย่างไรต่อ
Don’t Look Up :
หนังจิกกัดที่พร้อมสาดมุกเจ็บๆ ใส่คนดูตั้งแต่ต้นจบจบเรื่อง เมื่อดาวหางกำลังจะพุ่งชนโลกในเวลา 6 เดือน เหล่าผู้นำโลกและประชาชนจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร รับรองว่ายิ่งดูจะยิ่งคิดถึงเรื่องราวที่เราแสนจะคุ้นเคย หนังได้ดาราดังมาร่วมงานอย่างคับคั่ง ทั้ง Jennifer Lawrence, Leonardo DiCaprio, Meryl Streep, Cate Blanchett, Timothée Chalamet และอีกมากมาย มาดูกันว่าพลังความเกรียนที่แสบสันแบบนี้จะไปถึงดวงดาวหรือไม่
Drive My Car :
ดัดแปลงจากเรื่องสั้นชื่อเดียวกันของฮารูกิ มูราคามิที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดี Drive My Car คือหนังภาษาต่างประเทศ (ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ) หนึ่งเดียวที่ผงาดเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ แม้หนังจะยาวถึง 3 ชั่วโมงแต่ใครต่อใครที่ได้ดูแล้วต่างยอมรับว่าดีสมราคาจริงๆ โดยหนังพูดถึงผู้ชายที่สูญเสียภรรยาเล่าเรื่องให้คนขับรถหญิงฟัง กลายเป็นการเดินทางเพื่อค้นหาทางออกจากความเจ็บปวด หนังจะสร้างปรากฏการณ์ได้เหมือน Parasite หรือไม่ต้องติดตาม
Dune :
นวนิยาย Sci-Fi ขึ้นหิ้งของ Frank Herbert กลับมาสู่จอเงินอย่างยิ่งใหญ่ โดยหนังเล่าถึงเรื่องราวของตระกูล อาทีย์เดส ผู้สูงศักดิ์ ที่ได้เข้ามาปกครองดวงดาวอาราคิสที่รกร้างและเต็มไปด้วยเครื่องเทศอันล้ำค่า แต่สิ่งที่น่ากลัวคือดาวดวงนี้คือบ้านของหนอนทรายยักษ์ที่แสนดุร้าย พอล ทายาทแห่งตระกูลอาทีย์เดส พบกับชะตากรรมอันพลิกผัน ทำให้เขาต้องผจญภัยท่านกลางทะเลทราย ผูกมิตรกับชาวเผ่าท้องถิ่น ก่อนจะกลับมาทวงความเป็นธรรมจากศัตรูของครอบครัวเขา คลาสสิกแบบนี้จะมีลุ้นไหม ต้องดูกัน
King Richard :
เรื่องราวของ Richard Williams ผู้ที่เคี่ยวกรำลูกสาวทั้งสองคนของเขา Venus และ Selena ให้กลายเป็นมือวางอันดับ 1 ของวงการเทนนิสหญิงของโลกได้ทั้งคู่ หนังเล่าถึงเบื้องหลังความสำเร็จของการสร้างนักกีฬาและความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกผ่านดราม่าสุดเข้มข้น บอกเลยว่าเรื่องนี้ Will Smith เล่นได้ถึงบทบาทจนได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมด้วย ทั้งเรื่องราวและพลังดารามาเต็มแบบนี้ ต้องดูว่า King Richard จะได้เถลิงบัลลังก์สำเร็จหรือไม่
Licorice Pizza :
หนังตลกวัยรุ่นย้อนยุคที่เล่าถึง “การเติบโต วิ่งไปรอบๆ และตกหลุมรักในหุบเขาซาน เฟอร์นันโด ปี 1973” โฟกัสที่ความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่วิ่งเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ จนวันหนึ่งความรู้สึกในใจเริ่มเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม พลอตเรื่องฟังดูธรรมดาแต่ความใครได้ดูก็ต่างหลงรัก บอกเลยไม่ดีจริงไม่หลุดเข้ามาเป็น 10 เรื่องสุดท้ายของปีแน่นอน
Nightmare Alley :
กิลเลอร์โม เดล โทโร่มีลุ้นคว้า Oscar ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเรื่องที่ 2 ต่อจาก The Shape of Water โดยจับเอานิยายชื่อดังมาขึ้นจอเงิน หนังดราม่า-ฟิล์มนัวร์เรื่องนี้เล่าถึงเรื่องราวของการต้มตุ๋นและส่วนลึกอันมืดมิดในจิตใจของคนที่เปรียบเสมือนตรอกอันไร้แสงสว่าง หนังได้ดาราชั้นนำร่วมงานมากมายทั้ง Bradley Cooper, Cate Blanchett , Toni Collette, Ron Perlman, Willem Dafoe และ Rooney Mara ชื่อชั้นรับประกันคุณภาพ แต่จะเพียงพอสำหรับตุ๊กตาทองหรือเปล่าเท่านั้นเอง
The Power of The Dog :
ตัวเต็งจ๋าบนเวที Oscar ปีนี้และเป็นความภูมิใจของค่าย Netflix ที่ผงาดเข้าชิงในสาขาต่างๆ รวมถึง 12 รางวัล โดยเฉพาะผู้กำกับและนักแสดงที่ยกชุดกันเข้าชิง หนังว่าด้วยเรื่องของคาวบอยปากร้ายที่ต้องรับมือกับภรรยาของน้องชายที่มาพร้อมลูกติดที่ทั้งคู่ทำอะไรขัดหูขัดตาเขาไปเสียหมด รวมถึงความลับของตัวเขาเองที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้ หลังทั้งทรงพลังและชวนให้ขบคิดในทุกบททุกฉาก พิสูจน์ความยอดเยี่ยมของหนังได้ตลอดเวลาที่ Netflix … ดีกรีขนาดนี้ถ้ามงไม่ลงจะงงมาก!
West Side Story :
ว่ากันว่าหาก The Power of The Dog จะแพ้ให้หนังสักเรื่อง เรื่องนั้นน่าจะเป็น West Side Story นี่แหละ แค่คิดว่าพ่อมดของ Hollywood อย่าง Steven Spielberg หยิบเอางานขึ้นหิ้งของโลกเรื่องนี้มาทำใหม่หนังก็มีภาษีโดดเด่นมากแล้ว หนังเล่าถึงความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งของกลุ่มอิทธิพล 2 กลุ่ม มีจุดขายคือเพลงเพราะๆ และท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ ของเดิมคว้า Oscar ไปถึง 10 ตัวรวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ดูว่าปีนี้ของใหม่จะทำได้ดีแค่ไหน
มีใครได้ดูครบ 10 เรื่องที่ติดโผภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแล้วบ้าง บางเรื่องยังหาดูได้ บางเรื่องอาจจะต้องรอลง Streaming อีกรอบ รักใครชอบใครก็คอยติดตามเชียร์กันได้ เช้าวันที่ 28 มีนาคมนี้ รู้แน่ว่าตุ๊กตาทองจะไปอยู่ในอ้อมกอดใคร!