เพราะ “สี” คือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยสร้างบรรยากาศให้แก่ผู้อยู่อาศัย ดังนั้นถ้าใครอยากให้ห้องของตัวเองดูโล่ง โปร่ง และอยู่สบายมากยิ่งขึ้น ลองนำเทคนิคการใช้สีเหล่านี้ไปแต่งห้องกันดูนะครับ
1. ผนังสีอ่อน + เพดานสีอ่อน ช่วยเพิ่มความกว้างให้กับตัวห้อง
สำหรับใครที่ห้องมีพื้นที่จำกัดและอยากทำให้ห้องดูกว้างขึ้นจากความเป็นจริง ลองใช้โทนสีอ่อนกับผนังและเพดานก็จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้ ทั้งนี้เพราะโทนสีอ่อนเช่น ขาว ครีม เทาอ่อน ฯลฯ จะทำหน้าที่กระจายแสงสว่างพร้อมช่วยสะท้อนแสงธรรมชาติที่เข้ามาภายในห้อง ส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมภายในห้องดูโล่ง โปร่ง และกว้างขึ้นมากกว่าเดิม
2. ผนังสีอ่อน + เพดานสีเข้ม เพิ่มมิติความสูงของเพดาน ทำให้ห้องดูสูงขึ้น
แต่ถ้าหากห้องของใครมีเพดานค่อนข้างต่ำทำให้อยู่แล้วรู้สึกอึดอัดคับแคบ ลองใช้โทนสีเข้มกับเพดานแล้วใช้โทนสีอ่อนกับผนัง ซึ่งการตัดกันของสีทั้งสองโทนนี้จะช่วยเพิ่มมิติความลึก ทำให้เพดานดูสูงมากกว่าความเป็นจริงได้
3. ผนังด้านที่อยู่ในสุดสีเข้ม เพิ่มมิติความลึกให้กับตัวห้อง ทำให้ห้องดูลึกมากขึ้น
เช่นเดียวกันกับเทคนิคเพิ่มความสูงของเพดาน หากห้องของใครเป็นห้อง Studio เรียบๆ ขนาดกะทัดรัด อาจลองเพิ่มลูกเล่นด้วยการเลือกใช้โทนสีเข้มกับผนังด้านในสุด ซึ่งจะทำให้ห้องของเราดูลึก และยาวมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเองครับ
4. เพ้นท์ลวดลายบนผนัง ลวดลายเล็กๆ จะช่วยเพิ่มมิติให้กับตัวห้อง และทำให้ห้องดูกว้าง ไม่อึดอัด
เทคนิคสุดท้ายคือการเพ้นท์ลวดลายเล็กๆ ในโทนสีอ่อนลงบนผนัง นอกจากจะช่วยเพิ่มลูกเล่นและมิติให้กับห้องแล้ว ยังทำให้ห้องดูโล่ง กว้าง และคลายความอึดอัดลงได้ด้วยครับ
และนี่ก็เป็น 4 เทคนิคการทาสีห้องให้อยู่สบายที่เราได้หยิบมาฝากทุกคนกันในวันนี้ ลองนำไปประยุกต์ใช้แล้วมาบอกผลลัพธ์ที่ได้ว่าเวิร์คหรือไม่เวิร์คกันด้วยนะครับ