การซื้อของสะสมมาเก็งกำไรอาจจะฟังดูเป็นวิธีสร้างความมั่งคั่งอย่างง่ายๆ เพราะอาศัยแค่หลักการซื้อถูกและรอเวลาขายให้ได้ราคาแพงๆ เท่านั้น ไม่ต้องอาศัยความรู้เชิงลึกเหมือนกับการลงทุนแบบอื่นเช่น หุ้นหรือคริปโต และไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูงเหมือนการซื้อบ้านหรือคอนโดไว้รอให้ราคาพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาของสะสมแต่ละชิ้นก็อาจจะไม่มีมาตรฐานคงที่เสมอไป เพราะมีเรื่องของความชอบเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หากใครอยากจะเริ่มลงทุนกับของสะสมแต่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกเก็บอะไรดี วันนี้เรามีของ 3 ชนิดมาแนะนำกัน
นาฬิกา :
แม้เราจะอยู่ในยุคสมัยของอุปกรณ์ Digital ต่างๆ แต่นาฬิกาข้อมือก็ยังมีมูลค่าอยู่เสมอเพราะนอกจากใช้บอกเวลาแล้ว นี่ยังเป็นเครื่องประดับชิ้นใหญ่ที่ทำให้ผู้ชายดูดีและภูมิฐานขึ้นมาได้ทันที แม้ในตลาดของสะสมจะนิยมเล่นนาฬิกาหรูเป็นหลัก แต่ก็ยังพอที่มีให้นาฬิการะดับรองลงมาที่ผลิตจำนวนจำกัด เช่น นาฬิกา Seiko ที่มักนำออกชุด Collection จากการ์ตูนเรื่องดัง หรือรุ่นที่ทำมาพิเศษเพื่อฉลองโอกาสครอบรอบต่างๆ นาฬิกาประเภทนี้ใช้ทุนไม่สูงมาก มีกลุ่มผู้ชื่นชอบเฉพาะและสามารถปล่อยต่อได้ไม่ยากด้วย
โมเดลและของเล่น :
ตลาดของเล่นในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไปแล้ว เพราะไม่ใช่แค่เด็กที่ซื้อของเล่นหรือโมเดล ลูกค้าตัวจริงกลับกลายเป็นเหล่าผู้ใหญ่ที่อยากจะสานฝันตัวเองในวัยเด็กเสียมากกว่า การสะสมของเล่นยังแตกแขนงออกไปเป็นหลายกลุ่มได้ด้วย เช่น โมเดลตั้งโชว์ โมเดลต่อประกอบ ตุ๊กตา โมเดลรถ และอื่นๆ ต้นทุนของการเริ่มสะสมโมเดลอยู่ที่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น แต่เวลาขายต่ออาจจะนำไปเปิดประมูลใน Social Media หรือ Website ต่างๆ ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นได้หลายเท่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความนิยมในของเล่นชิ้นนั้นและความหายากด้วย
การ์ดนักกีฬา :
การ์ดสะสมอาจจะไม่ได้นิยมกันแพร่หลายในบ้านเรา แต่สำหรับในต่างประเทศมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเป็นเรื่องปกติ การ์ดนักกีฬาที่ขายกันในราคาสูงๆ มักจะเป็นการ์ดนักเบสบอล การ์ดนักบาสเกตบอล และการ์ดนักฟุตบอล มูลค่าของการ์ดนักกีฬาจะเพิ่มขึ้นตามชื่อเสียงและผลงานของนักกีฬาคนนั้นๆ ยิ่งหากเป็นแบบมีลายเซ็นจริงๆ บนการ์ดด้วย อาจจะมีราคาได้ถึงหลักล้านบาท ยิ่งใครสะสมการ์ด Rookie หรือการ์ดนักกีฬาดาวรุ่ง แล้วอนาคตเกิดมีชื่อเสียงขึ้นมา ปล่อยขายในตลาดเมื่อไหร่กำไรมหาศาลแน่นอน
การสะสมของเพื่อเก็งกำไรนั้นมีหลักการอยู่ไม่กี่ข้อ อาทิ ควรจะเลือกซื้อในสิ่งที่เราชอบอยู่แล้ว ไม่คิดแต่การเก็งกำไรเพื่ออย่างเดียว เพราะเราจะมีความเชี่ยวชาญและรู้ว่าของชิ้นไหนมีโอกาสทำกำไร รวมถึงเน้นของที่ผลิตมาจำนวนจำกัดซึ่งรับประกันว่าจะหายากแน่นอนในอนาคต ส่วนการหาของนั้นดีที่สุดคือซื้อจากผู้ผลิตโดยตรง รองมาคือตัวแทนจำหน่ายหรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือ และสุดท้ายหากต้องการกำไรสูงสุด เราต้องดูแลรักษาให้ของทุกชิ้นอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เราขอให้ชาว GEN C โชคดีกับลงทุนในสิ่งที่รักกันทุกคน