วิธีคิดแบบ Toxic คืออะไร พิษร้ายในสมองที่คุณควรหลีกเลี่ยง!

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่าความคิด Toxic หรือคำว่า Toxic People กันแน่นอน แต่อาจจะไม่แน่ใจว่าความหมายของมันคืออะไรกันแน่ แล้วคนที่มีความคิดแบบนี้มักเกิดจากอะไร เราจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ได้บ้าง มาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นว่าวิธีคิดแบบ Toxic คืออะไรกันแน่ เรากำลังเป็นแบบนี้อยู่หรือเปล่ากันดีกว่า

คำว่า Toxic มีความหมายว่าอะไร ทำไมถึงเอามาใช้กับพฤติกรรมของมนุษย์

คำว่า Toxic ในภาษาอังกฤษแปลว่าพิษ หรือความเป็นพิษ ส่วนมากมักใช้กับสารเคมีต่างๆ หรือสิ่งอันตรายที่มีพิษอย่างที่เข้าใจกันดีนี่แหละ แต่ในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินคำนี้กันมากขึ้น และเริ่มเข้าใจกันดีแล้วว่า Toxic คือ ความคิดแย่ๆ หรือพฤติกรรมแย่ๆ ที่เกิดขึ้นจากคนบางประเภทนั่นเอง

มีการสันนิษฐานกันว่า ที่มาของคำนี้น่าจะมีจุดเริ่มต้นมาจากชื่อเพลง Toxic ของไอคอนสาวระดับโลก บริตนีย์ สเปียร์ส ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2003 และกลายเป็นเพลงฮิตติดลมบนมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถ้าหากไปดูคำแปลและความหมายของเพลงนี้ Toxic คือ คู่รักที่มีความร้ายกาจ หรือมีพิษที่ต้องยอมมอบความรักให้ เพื่อที่จะสามารถลิ้มรสความเป็นพิษนี้ที่เปรียบเหมือนการเดินขึ้นสู่สรวงสวรรค์นั่นเอง (อุปมาเหมือนเล่นกับคนเจ้าชู้หรือ Playboy ที่รู้ว่าไม่ดี แต่ก็ยังอยากจะลองดีสักครั้งอยู่เหมือนกัน)

แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำว่า Toxic คือ การที่คนประเภทหนึ่งมีพฤติกรรมที่ไม่ดี ชอบพูดจาไม่ดีหรือเป็นพิษใส่คนอื่นๆ และยังมีอีกหลายพฤติกรรมที่จะพูดถึงเรื่อยๆ ในบทความนี้ ซึ่งก็คาดเดากันว่าคำนี้น่าจะเป็นที่แพร่หลายกันมากขึ้นช่วงประมาณปี 2010 เป็นต้นไป และเริ่มแมสในคนหมู่มาก จนถึงขั้นที่มีการทำบทวิเคราะห์ถึงการเอาคำนี้มาใช้อธิบายพฤติกรรมอันน่ารังเกียจในช่วงปี 2014 แต่สำหรับจุดเริ่มต้นในไทยของคำนี้ น่าจะพึ่งเริ่มเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เลย

ประเด็นของเรื่อง Toxic คือ คนแต่ละคนนิยามคำศัพท์คำนี้ไม่เหมือนกันแม้แต่คนเดียว ถึงแม้จะบอกว่ามันคือพฤติกรรมแย่ๆ แต่คำว่าแย่ๆ ของแค่ละคนก็ไม่เหมือนกันอยู่ดี อย่างสมมุติว่าคุณพูดใส่หน้าบุคคลคนหนึ่งว่า “ฉันทนความ Toxic ของเธอไม่ไหวแล้ว ออกไปจากชีวิตฉันเดี๋ยวนี้เลย” คำถามต่อมาก็คือ คำว่า “เธอ” เนี่ย มันหมายถึงคนที่เราพูดใส่หน้า หรือเรากำลังพูดถึงพฤติกรรมในตัวเราอยู่ เพราะคนส่วนมากที่มีภาวะ Toxic มักจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีพฤติกรรมนี้ และมักจะคิดว่าคนอื่นเป็นอยู่เสมอ

รู้จักคำว่า Toxic ให้มากขึ้น ในความหมายตามหลักจิตวิทยา

มีการทำให้คำว่า Toxic ดูเป็นรูปธรรมมากขึ้น จากนักจิตวิเคราะห์คนหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ที่นิยามว่า Toxic คือ คนที่มีลักษณะชอบเข้าไปยุ่ง ไปควบคุม หรือไปออกคำสั่งกับคนอื่น บางคนก็ชอบสร้างเรื่องราววุ่นวาย สร้างดราม่าร้อยแปดไม่รู้จบทั้งกับตัวเองและคนรอบข้าง บางคนก็ชอบเรียกร้องความสนใจที่มากเกินไปอยู่เสมอ ขณะที่บางคนก็มีจิตใจที่อิจฉาคนอื่นอยู่ตลอดเวลา และชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นที่ “เกินเรื่อง” ไปอยู่เสมอ เพราะไม่อยากให้คนอื่นได้ดีกว่า บางคนหนักกว่านั้น ก็คือมองว่าตัวเองแค่โชคร้าย ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่มีเรื่องดีเลย และที่หนักที่สุดก็คือการทำร้ายตัวเองและคนรอบข้างเพื่อเรียกร้องความสนใจ ถึงมีใครจะพาไปพบจิตแพทย์ก็ไม่เอา จากนิยามนี้ คนที่ Toxic ไม่จำเป็นต้องมีพฤติกรรมเหล่านี้ทุกอย่างก็ได้ แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้หลายอย่างในคนเดียวกัน

ถึงจะฟังดูเยอะๆ ไปหน่อย แต่ถ้าเราลองสังเกตคนรอบตัวเราสักนิด ก็จะเห็นได้ชัดเลยว่ารอบตัวของเราจะมีคนที่พฤติกรรมเหล่านี้อยูมากจนอาจคาดไม่ถึงเลย บางคนอาจเป็นเพื่อนสนิทของเรา บางคนอาจเป็นเพื่อนร่วมงานของเรา และบางคนอาจเป็นคนในครอบครัวของเรา และบางทีก็อาจจะเห็นพฤติกรรมเหล่านี้อยู่ในตัวของเราด้วย

ถ้าว่ากันตามหลักจิตวิทยาแล้ว Toxic คือ สิ่งที่เกิดขึ้นมาจาก Thinking Patterns หรือรูปแบบของความคิดทั่วไป 3 ได้ อย่าง ได้แก่ ความโกรธ ความรู้สึกผิด อับอาย และความกลัวที่ผสมผสานกันจนก่อให้เกิดความรู้สึกที่รุนแรงขึ้น และผลักมันออกมาโดยการแสดงพฤติกรรมบางอย่างเพื่อต่อต้านความรู้สึกนี้ที่อยู่ในจิตใจ แต่อย่าพึ่งรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องประหลาด เพราะการต่อต้านอะไรพวกนี้ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์สามารถดำรงเผ่าพันธุ์มาได้จนถึงปัจจุบัน ลองนึกถึงการต่อสู้กับเสือหรือหมีด้วยมือเปล่าก็ได้ เราก็คงจะทำอะไรบ้าๆ ออกมาหลายอย่างเพื่อสู้กับมันให้สุดใจ แต่ทุกวันนี้เราไม่ได้สู้กับสัตว์ป่าดุร้ายเหล่านั้นแล้ว แต่สู้กับคนด้วยกันเอง มันก็เลยออกมาเป็นแบบนี้แหละ

ถามว่าคนที่แสดงพฤติกรรม Toxic ออกมาจะรู้สึกอะไรไม่ดีบ้างมั้ย รู้แย่กับตัวเองบ้างหรือเปล่า คำตอบคือเกือบ 100% รู้สึกดีแบบที่เรียกว่าฟีลกู๊ดกันเลย เพราะคนเหล่านี้ได้ปกป้องตัวเองสำเร็จแล้ว จนถึงขั้นที่ทำให้สมองหลั่งสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับความสุขออกมาเลย

คำถามต่อไปก็คือ ทำไมเวลาที่เรากลัว แล้วต้องทำอะไรที่ Toxic ออกมา ตกลง Toxic คืออะไรกันแน่ ก็ต้องอธิบายตามหลักประสาทวิทยาก่อนเลยว่ากลไกการทำงานของความกลัวในจิตใจมนุษย์ จะนำไปสู่การเรียนรู้โดยอัตโนมัติว่าต้องทำยังไงถึงจะจัดการกับความกลัวนี้ได้ และจะทำให้การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นฝังเข้าไปในจิตใจแบบไม่มีวันลืมเลย ถ้าไม่เชื่อคุณลองคิดถึงความกลัว หรือเป็นความโกรธที่สุดในชีวิตของคุณก็ได้ คุณทำยังไงถึงผ่านมันมาได้ รับรองว่าคุณจำได้แม่นแน่นอน และเชื่อว่าหลายคนก็ยังเอาการเรียนรู้นั้นมาใช้เมื่อเกิดความกลัว หรือความโกรธในปัจจุบันนี้ด้วย

ลองมายกตัวอย่างความเป็นจริงกันบ้าง ยกตัวอย่างเช่น คุณกับเพื่อนกำลังไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด แล้วดันเจอช้างป่ายืนขวางหน้ารถแล้วมีทีท่าว่าจะเดินเข้ามาหาคุณ เชื่อเถอะว่าจะต้องมีคนพูดขึ้นมาเลยว่าทำไมถึงมาทางนี้ ทำไมต้องเลือกมาจังหวัดนี้ จังหวัดอื่นมีเยอะแยะทำไมไม่ไป แทนที่จะช่วยแก้ปัญหาว่าจะขับรถหนีไปทางไหนดี หรือจะต้องโทรแจ้งใครในสถานการณ์แบบนี้ และแน่นอนว่าเมื่อผ่านสถานการณ์นี้ไปแล้ว บุคคลนั้นก็ยังจะพูดทำนองนี้อีกเรื่อยๆ เพราะมันคือการปกป้องตัวเองในรูปแบบของเขา ซึ่งเขาพอใจที่จะทำมันแบบนี้ และเชื่อได้เลยว่าในอนาคตก็จะเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้อีก

ยิ่งถ้าหากว่าคนรอบตัวไม่พูด ไม่ต่อว่าหรือท้วงติงอะไรขึ้นมาเลย ก็จะยิ่งทำให้เกิดอาการเสพติดการ Toxic เข้าไปอีก และหลังจากนี้เขาจะมองไม่เห็นเลยว่าสิ่งที่ตัวเองแสดงออกมา หรือพฤติกรรมบางอย่างของตัวคืออาการ Toxic ที่คนส่วนมากเอือมระอา และกลายเป็นว่าเมื่อไรก็ตามที่เขาเกิดความกลัว โกรธ หรืออับอายก็จะแสดงความ “เป็นพิษ” นี้ออกมา และจะกล่าวหาคนอื่นที่ต่อต้านเขาว่าเป็นพวก Toxic แทน

รวมวิธีรับมือกับคนที่มีความคิดเป็นพิษ ก่อนที่คุณจะโดนพิษร้ายนี้เสียเอง

อธิบายกันมาเยอะแล้วว่า Toxic คืออะไร คราวนี้ก็มาดูวิธีรับมือกับคนที่มีความคิดเป็นพิษที่อยู่รอบตัวคุณบ้าง ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำและจัดการมันให้ได้ ก่อนที่คุณจะกลายเป็นคน Toxic ไปด้วยแบบไม่รู้ตัว

1.พูดคุยกันตรงๆ อย่างเปิดอก

เมื่อไรก็ตามที่มีการพ่นพิษใส่คุณ สิ่งที่คุณต้องทำคือการมองตาคู่สนทนา แสดงความมั่นใจแล้วพูดไปตรงๆ เลยว่า สิ่งที่เขาทำอยู่มันแย่ มันไม่ดีตรงไหน ตัวคุณเองรู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์นี้ และต้องการให้มันเป็นยังไงต่อไป แล้วลงท้ายไปเลยว่าที่คุณพูดมาทั้งหมดนี้เกิดจากเจตนาที่ดี และความรักอย่างแท้จริง ถ้าหากว่าบุคคลนี้เป็นคนสนิทของคุณมากจริงๆ ยังไงก็ต้องมีการเก็บไปคิดและพิจารณาแน่นอน

2.ขีดเส้นรอบตัวคุณเอาไว้

ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนง่าย ๆ และสามารถรับฟังคนอื่นได้ดี แต่ทุกอย่างก็ต้องมีขอบเขต เพื่อไม่ให้ตัวคุณกลายเป็นคน Toxic ไปด้วย เพราะฉะนั้นให้คุณลองพิจารณาดูว่า Toxic คืออะไรสำหรับคุณ พฤติกรรมแบบไหนที่คุณเห็น รับฟังแล้วรู้สึกแย่ต่อสภาพจิตใจมาก ๆ ให้พยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์นั้น ๆ โดยอ้างเหตุผลอะไรก็ได้ที่ยังดีต่อความสัมพันธ์ และยังดีต่อตัวคุณเอง หรือจะพูดตรง ๆ ไปเลยก็ได้

3.ทำตัวให้นิ่งที่สุด

ถ้าหากว่าความสัมพันธ์ของคุณกับมนุษย์ Toxic คนนั้นเดินทางมาถึงจุดแตกหักแรก คุณจะต้องมีสติและนิ่งไว้อยู่เสมอ อย่าร้อนรนและโมโหไปตามอารมณ์ของบุคคลนั้น พยายามพูดคุยด้วยเหตุผล และหาตัวช่วยซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนหรือคนใกล้ตัวแถวนั้นเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยด้วย แต่ถ้าหากพยายามแล้วทุกอย่างไม่เป็นผล ก็ให้นิ่งไว้เหมือนเดิม พร้อมกับยื่นคำขาดไปเลยว่าคุณจะทำหรือไม่ทำอะไร อีกฝั่งจะตัดสินใจว่ายังไง แล้วยึดตามนั้นแบบเป็นจริงเป็นจังไปเลย

4.ยุติความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ

เรื่องนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ยากและเจ็บปวดใจที่สุด ยิ่งถ้าคนที่ Toxic ใส่คุณเป็นเพื่อนสนิท เป็นคนรัก หรือคนในครอบครัว แล้วต้องยุติความสัมพันธ์กันไป ก็อาจจะทำให้ใครหลายคนยอมทนอยู่ในวังวนนี้ต่อไปเพราะไม่อยากเจ็บปวดแบบที่กล่าวมา แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคุณยอมเดินออกมาจากปัญหานี้เมื่อไร สุขภาพจิตของคุณจะดีขึ้นมากแบบที่คาดไม่ถึงมาก่อนเลย และอาจเป็นโอกาสดี ๆ ที่จะได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ด้วย ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นในออฟฟิศ ทางออกที่ดีที่สุดอาจจะเป็นการลาออก ซึ่งเราขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า การเดินออกมาไม่ได้แปลว่าคุณยอมแพ้ให้กับปัญหานี้ แต่คุณแค่เดินออกมารักษาสุขภาพจิตให้ดีขึ้น เตรียมพร้อมที่จะรับกับสิ่งดี ๆ ที่จะเข้ามาต่อจากนี้ต่างหาก

ก็หวังว่าจะได้คำตอบกันอย่างชัดเจนแล้วว่า Toxic คืออะไร แล้วคุณควรจะจัดการอย่างไรกับมัน อย่าปล่อยให้เรื่องนี้กัดกินจิตใจของคุณไปเรื่อยๆ เพราะมันอาจจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่มี “พิษร้าย” ในอนาคตได้แบบไม่รู้ตัว หรือถ้าหากอยู่ในสถานการณ์ที่จัดการอะไรไม่ได้จริง ๆ อย่างน้อยการไปพบจิตแพทย์ก็อาจเป็นอีกทางออกหนึ่งที่สามารถช่วยคุณได้

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top