ชาว Gen C รู้หรือไม่ว่ารถไฟฟ้าทั้ง 6 สายที่เปิดใช้บริการ สามารถช่วยลดการใช้พลังงานน้ำมันไปแล้วกว่า 224.3 พันตันในปีนี้
ทั้งนี้ต้องขอเล่าย้อนไปเมื่อตอนการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 (COP-21) เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2558 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประเทศไทยของเราตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงราวๆ ร้อยละ 20 – 25 ภายในปี 2573 และเมื่อผลการประชุมมีมติเห็นชอบความตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. 2559 เป็นต้นมา ทางภาคคมนาคมจึงได้ทำแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ปี พ.ศ. 2564-2573 สาขาคมนาคมขนส่ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนที่นำทางลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย
ซึ่งจากแถลงการณ์โครงการติดตามประเมิน (Tracking) การใช้พลังงานที่ลดได้จากมาตรการภาคขนส่งด้วยการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนของ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ที่สามารถตรวจวัด รายงาน และทวนสอบ (Measurement, Reporting and Verification : MRV) ได้ ในปี 2563 พบว่า รถไฟฟ้าทั้ง 6 เส้นทางที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ได้แก่
- รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สำโรง และ ช่วงสำโรง-สมุทรปราการ
- รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า
- รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง และ ส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ
- รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์
- รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน
สามารถช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานได้แล้วประมาณ 224.3 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (ktoe) และช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปแล้วประมาณ 0.64 MtCO2e ซึ่งถ้าหากเปิดให้บริการรถไฟฟ้าครบ 10 สาย ตามแผนแม่บท M-Map ในอนาคตก็จะช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เพิ่มขึ้นจากเดิม
รู้แบบนี้แล้วเราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศได้ด้วยการหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนตัวกันนะครับ
ขอบคุณข้อมูลประกอบ
- www.mgronline.com
- www.tgo.or.th