Treat Cafe & Hang Out ความลงตัวของเสน่ห์สไตล์วินเทจและเรโทร

Treat Cafe & Hang Out ความลงตัวของเสน่ห์สไตล์วินเทจและเรโทร

Treat_01

NOTE:
– Treat คาเฟ่ที่แตกไลน์มาจากร้านเบเกอรี่ชื่อดัง Café to All โดยเสิร์ฟเมนูอาหารคาวอิ่มท้องควบคู่กับเมนูขนมหวาน ขณะเดียวกันก็เป็นสถานที่แฮงค์เอ้าท์ยามค่ำคืนให้คนย่านเสนานิคม
– ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Simple but Precious’ จึงตกแต่งร้านเรียบง่ายในโทนสีขาว แต่แต่งแต้มเอกลักษณ์ผ่านของตกแต่งสไตล์วินเทจเรโทรและเฟอร์นิเจอร์สไตล์รัสติก
– เมนูอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน แม้จะเป็นเมนูคุ้นเคย แต่กลับแฝงความพิเศษผ่านวัตถุดิบที่เลือกใช้ รสชาติที่ปรุงขึ้นใหม่ และรายละเอียดที่ใส่ลงไป ทำให้ Treat กลายเป็นสถานที่ชาร์จพลังที่มีเสน่ห์อีกแห่งหนึ่ง

Treat_02

Treat_03

จากบ้านเดี่ยวที่นำมารีโนเวทให้กลายเป็นสถานที่ชาร์จพลังงานของคนย่านเสนานิคม 1 จนได้คาเฟ่กึ่งร้านอาหารและสถานที่แฮงค์เอ้าท์ยามค่ำคืนในชื่อ “Treat” ซึ่งการันตีความพิเศษของเมนูอาหารด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีจากร้าน Cafe to All

Treat Café & Hang Out แห่งนี้มีเจ้าของเดียวกับร้านเบเกอรี่ ‘Cafe to All’ ร้านดังที่เปิดมายาวนานกว่า 10 ปี และเมื่อเจ้าของร้านคิดอยากแตกไลน์ใหม่จึงกลายเป็นคาเฟ่กึ่งร้านอาหารและสถานที่แฮงค์เอ้าท์กลิ่นอายวินเทจเรโทรแห่งนี้ โดยไม่ทิ้งจุดเด่นเรื่องเมนูขนมหวานและเบเกอรี่ ขณะเดียวกันก็เพิ่มความอิ่มอร่อยด้วยเมนูอาหารคาว

Treat_04

Treat_05

Treat_06

คาเฟ่แห่งนี้มีคอนเซ็ปต์ว่า “Simple but Precious” ที่เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงดีเทลเอาไว้อย่างครบถ้วน กลายเป็นสถานที่ล้ำค่าที่ให้ผู้คนได้แวะไปผ่อนคลาย โดยความเรียบง่ายแต่ล้ำค่านี้ไม่เพียงแต่นำเสนอผ่านการตกแต่งร้านเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกอยู่ในเมนูอาหารด้วย

เริ่มจากการตกแต่งร้านที่รีโนเวทบ้านเดี่ยวให้กลายเป็นคาเฟ่ที่เจือกลิ่นอายอบอุ่นของบ้านเอาไว้ ด้านนอกร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้ประดับ ชวนนั่งปล่อยอารมณ์ในยามเย็น โดยแอบซ่อน Glass House สีดำเข้มท่ามกลางสีเขียวจากธรรมชาติเอาไว้ เพิ่มพื้นที่พิเศษด้วยบ้านต้นไม้ที่ดีไซน์ให้เป็นเรือนกระจกหลังเล็ก

Treat_07

Treat_08

Treat_09

ขณะที่ภายในร้านเลือกตกแต่งเรียบง่ายในโทนสีขาว เติมเอกลักษณ์และเสน่ห์ชวนนั่งในสไตล์วินเทจเรโทรจากของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์สไตล์รัสติกจากไม้จริงสีน้ำตาลเข้ม พร้อมกับเปิดเพดานสูง ทำให้ภายในร้านโปร่งโล่งดูอบอุ่น ขณะเดียวกันก็เป็นดีไซน์ที่ลงตัวให้คนรุ่นใหม่ได้แวะไปถ่ายรูปอวดเพื่อนๆ ในโลกโซเซียล

โดย Treat Café & Hang Out แบ่งพื้นที่ภายในร้านเป็น 2 ชั้นด้วยกัน ชั้นล่างออกแบบให้เป็นเคาน์เตอร์และบาร์เครื่องดื่ม มีตู้ขนมหวานขนาดใหญ่วางโดดเด่น รายล้อมด้วยโต๊ะเก้าอี้เพียงไม่กี่ตัว ขณะที่ชั้น 2 ออกแบบให้เป็นโซนรับแขก ซึ่งทางร้านวางโต๊ะเก้าอี้หลากหลายแบบ ทั้งโต๊ะเดี่ยวสำหรับคนที่มาเป็นคู่และต้องการพื้นที่ส่วนตัว โซฟาตัวใหญ่นุ่มสบายสำหรับครอบครัวมานั่งผ่อนคลาย หรือโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ให้แก๊งเพื่อนได้จับกลุ่มพูดคุยคลายความคิดถึง

Treat_10

Treat_11

Treat_12

เมนูของที่นี่มีทั้งเมนูคาวหวานให้เราแวะไปฝากท้อง ที่สำคัญทุกเมนูเป็นเมนูโฮมเมดที่เมื่อเราสั่งปุบ เชฟจะเข้าครัวปรุงแบบร้อนๆ ให้เราทันที โดยเมนูของที่นี่เป็นเมนูที่เราคุ้นเคย แต่ทางร้านใส่ดีเทลเพิ่มความพิเศษเข้าไปด้วย อย่าง “Cabonara” (240 บาท) ที่เสิร์ฟร้อนๆ ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเมนูธรรมดา แต่กลับซ่อนความไม่ธรรมดาเอาไว้ด้วยการใส่ไข่แดงซึ่งฝังกลบอยู่ภายใต้เส้นพาสต้าร้อนๆ รอให้เราตักขึ้นมาชิม

ต่อกันด้วย “Buffalo Wing” (160 บาท) เมนูชื่อแปลกที่ชวนสงสัย แต่แท้จริงแล้วเป็นเมนูปีกไก่กลางทอดกรอบที่เติมรสด้วยซอสสูตรเฉพาะของร้าน ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวของซอสมะเขือเทศเจือกลิ่นอายบาบีคิว กลายเป็นเมนูเบาๆ ให้เราทานเคล้ากับเครื่องดื่มแก้วโปรด

อีกหนึ่งเมนูสีสวยน่าทาน “Calamari” (160 บาท) ปลากหมึกสดทอดกรอบที่เสิร์ฟพร้อมด้วยผักนานาชนิดมาแต้มสีสันให้น่าทาน ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศที่เสิร์ฟมาเป็นลูกๆ ทับทิม มะนาว และแรดิสหันบาง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสอร่อย กลายเป็นเมนูง่ายๆ แต่รสชาติถูกปากที่ไม่อยากให้พลาด

Treat_13

Treat_14

Treat_15

ส่วนเมนูขนมหวานก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมื่อทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมี่ยมตามสไตล์ Café to All แน่นอนว่าทุกเมนูเป็นขนมหวานโฮมเมดที่ทำสดใหม่แบบวันต่อวัน ซึ่งแต่ละวันจะมีขนมหวานเมนูไหนให้เลือกชิมกันบ้างนั้น เราสามารถแวะชมได้จากตู้ขนมหวานขนาดใหญ่ที่วางต้อนรับอยู่ด้านหน้า

อย่างวันที่เราไปเยือน เราได้ลิ้มลอง “Strawberry Trifle” (145 บาท) ขนมหวานที่มีส่วนผสมของครีมสดเนื้อแน่นหวานกำลังดี ด้านบนท็อปด้วยสตรอเบอรี่สีแดงสดให้รสเปรี้ยวตัดหวาน ชั้นล่างเป็นช็อกโกแลตชิฟฟอนเค้ก โดยมีคัสตาร์ดคั้นกลาง เป็นเมนูขนมหวานที่ทั้งอร่อยและน่าทาน ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งเมนูขนมหวานห้ามพลาดคือ ‘Japanese Chocolate Toast with Berries’ โทสต์สไตล์ญี่ปุ่นที่หอมเนย ภายในอัดแน่นด้วยไอศกรีมและผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สด ราดด้วยซอสช็อกโกแลตรสเข้มข้น

Treat Cafe & Hang Out
Open: เปิดทุกวัน เวลา 11.30 – 23.00 .
Address: ถนนเสนานิคม 1
Tel: 081 888 6446
Facebook: https://www.facebook.com/treatcafeandhangoutbkk/

Treat_16

ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top