อยากมีบ้านต้องอ่าน! กู้ซื้อบ้าน เงินเดือน 15,000 ซื้อบ้าน 2 ล้าน ทำได้จริง

 

บ้านคือที่อยู่อาศัยและถือเป็นความจำเป็นพื้นฐานของทุกคน หลายคนมีความเชื่อว่าจะมีชีวิตที่ดีได้ต้องเริ่มต้นจากบ้านที่อบอุ่นและมีความสุข แต่ในการซื้อบ้านนั้นเป็นการลงทุนที่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพราะบ้านแต่ละหลังมีราคาสูงไม่น้อย ดังนั้นคนที่มีเงินเดือนไม่มากอาจจะคิดว่าการ กู้ซื้อบ้านในฝันเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อม แต่ความจริงแล้วหากมีการวางแผนที่ดี เงินเดือน 15,000 ซื้อบ้าน 2 ล้าน ก็ทำได้เหมือนกัน จะทำได้อย่างไรนั้นลองมาอ่านรายละเอียดต่อไปนี้

 

กู้ซื้อบ้าน เงินเดือน 15,000 ซื้อบ้าน 2 ล้าน ก็ซื้อได้!

การมีบ้านเป็นของตนเองอาจเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน  แต่บ้านส่วนใหญ่ก็มีราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งคงไม่มีปัญหาสำหรับคนที่มีเงินเดือนสูง ๆ แต่สำหรับคนที่มีเงินเดือน 15,000 บาท และอยากมีบ้านในฝันราคา 2-3 ล้านล่ะ! จะถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้หรือไม่? คำตอบ คือ เป็นไปได้ เพราะแม้จะมี เงินเดือน 15,000 ซื้อบ้าน 2 ล้าน คุณก็สามารถทำได้ด้วยการวางแผน กู้ซื้อบ้าน ที่ดีและรู้จักเลือกบ้านอย่างชาญฉลาด คุณก็จะได้มีบ้านสวย ๆ เหมือนอย่างฝันได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งจะทำได้อย่างไร มาดูขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้

 

1.เช็คความพร้อมในการ กู้ซื้อบ้าน

ก่อนที่จะทำการซื้อบ้าน ต้องมาตรวจสอบความพร้อมในการ กู้ซื้อบ้าน กันเสียก่อน โดยทั่วไปแล้วการคิดความสามารถในการชำระเงินกู้นั้น จะใช้สูตรคือ

 

  • เงินเดือนที่สามารถชำระได้ต่อเดือน = เงินเดือนที่ได้รับ x DSR

โดยที่ DSR นั้นหมายถึงภาระหนี้ที่มีอยู่ทั้งหมดหารด้วยรายได้ โดยในแต่ละธนาคารจะคิดค่า DSR ที่แตกต่างกัน แต่สามารถใช้ตัวเลข 40% เป็นพื้นฐานในการคำนวณอย่างคร่าว ๆ ได้ โดยหากมีเงินเดือน 15,000 บาท จะมีความสามารถในการชำระเงินกู้ต่อเดือนได้ในจำนวน 15,000 x 40/100 = 6,000 บาท จากนั้นก็นำมาคำนวณวงเงินที่ธนาคารจะปล่อยกู้ให้ได้สูงสุด จะใช้สูตรคือ

 

  • วงเงินที่จะกู้ได้ = (เงินที่ชำระต่อเดือน-ภาระผ่อนอื่นๆ) x 150
  • ดังนั้นเงินเดือน 15,000 บาท จะสามารถกู้ได้สูงสุด 6,000 x 150 = 900,000 บาท 

เมื่อได้ทราบถึงความพร้อมในการกู้เงินซื้อบ้านและจำนวนเงินกู้สูงสุดที่สามารถกู้ได้ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ก็จะทำให้สามารถวางแผนในขั้นต่อไปได้ง่ายขึ้น

 

2.หาคนกู้ซื้อบ้านร่วม

เมื่อทำการคำนวณจำนวนเงินสูงสุดที่สามารถกู้ธนาคารได้ และอัตราการผ่อนชำระในแต่ละเดือนแล้ว ก็จะได้รู้ว่าต้องมีเงินเพิ่มเท่าไหร่จึงจะสามารถกู้ซื้อบ้าน 2-3 ล้านได้ ซึ่งจากที่คำนวณมาในข้อ 1 จะเห็นว่าเงินเดือน 15,000 บาท  สามารถกู้เงินได้ในวงเงินประมาณ 9 แสนบาท มีความสามารถในการผ่อนชำระรายเดือนอยู่ที่ 6,000 บาท/เดือน ในขณะที่การผ่อนบ้าน 2-3 ล้านนั้นจะจะต้องผ่อนรายเดือนประมาณ 18,000 บาท

ดังนั้นหากจะซื้อบ้าน 2-3 ล้านต้องหาคนมากู้ร่วม ซึ่งเป็นได้ทั้งสามี, ภรรยา, พ่อแม่, พี่น้อง ที่ทำงานแล้วและมีอาชีพการงานที่มั่นคง เพื่อที่จะได้มาช่วยกันกู้ร่วมให้ได้วงเงินเพียงพอสำหรับการซื้อบ้านในฝัน  ซึ่งหากผู้กู้ร่วมมีคุณสมบัติที่ดีและมีรายได้ในระดับที่เหมาะสม ก็จะทำให้ธนาคารอนุมัติผ่านได้เร็วขึ้น และไม่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านแต่ละเดือนหนักเกินไป ซึ่งผู้กู้ร่วมต้องมีคุณสมบัติ คือ

 

  • เป็นบุคคลในครอบครัวที่มีนามสกุลเดียวกัน หรือคู่สมรสที่ไม่ต้องจดทะเบียนสมรสกันก็ได้
  • ผู้กู้ร่วมต้องมีประวัติการเงินที่ดี ไม่ติดเครดิตบูโร

โดยผู้กู้ร่วมนั้นจะต้องมีจำนวนไม่เกิน 2 คนเท่านั้น

 

3.วางแผนเก็บออมเงินเพื่อดาวน์บ้าน

การวางแผนซื้อบ้านนั้น จะต้องมีเงินดาวน์ประมาณ 5-20% ของราคาบ้าน ซึ่งผู้ซื้อจะต้องวางเงินดาวน์นี้ก่อน ที่เหลือจึงค่อยไปขอยื่น กู้ซื้อบ้าน กับทางธนาคาร โดยบ้านราคา 2-3 ล้าน หากคิดอัตราเงินดาวน์ดังที่กล่าวมาข้างต้นจะใช้เงินประมาณ 150,000 – 600,000 บาท คนจำนวนไม่น้อยเลือกวางเงินดาวน์ในอัตราที่ต่ำสุด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกเงินเองมากเกินไป  เพราะที่เหลือค่อยไปขอยื่นกู้กับทางธนาคาร แต่ข้อเสียของการวางเงินดาวน์ต่ำก็คือต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูง 

ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ควรเตรียมเงินสำหรับดาวน์บ้านในอัตราสูงตั้งแต่ 20-30 % ขึ้นไป เพื่อที่จะได้ลดภาระดอกเบี้ยบ้านลง  ซึ่งบ้านราคา 2-3 ล้านควรเตรียมเงินดาวน์ไว้ประมาณ 600,000 – 900,000 บาท  เพราะฉะนั้นควรวางแผนเก็บออมเงินเพื่อดาวน์บ้านให้ดี เพราะหากทำได้จะช่วยลดภาระในการผ่อนลงไปอีกมากทีเดียว แต่เนื่องจากเงินดาวน์นั้นเป็นเงินก้อนจำนวนไม่น้อย ดังนั้นก่อนที่จะวางดาวน์บ้านโครงการใด ควรตรวจสบดูด้วยว่ามีนโยบายคืนเงินดาวน์หรือไม่ในกรณีที่กู้ไม่ผ่าน เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องเสียเงินดาวน์ก้อนใหญ่ที่อุตส่าห์เก็บออมมาโดยเปล่า

 

4.เลือกที่อยู่อาศัยในทำเลที่เหมาะ

การเลือกบ้านในทำเลที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน เพราะบ้านนั้นประกอบด้วยปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง  ไม่ใช่เฉพาะแค่ตัวบ้านสวย ๆ เพียงอย่างเดียว ซึ่งสิ่งที่จะต้องพิจารณาร่วมกัน คือ ทำเล, สิ่งแวดล้อม, สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพราะจะทำให้การใช้ชีวิตที่บ้านในฝันนี้ง่ายขึ้น เริ่มต้นที่ทำเลบ้าน ควรมองหาทำเลบ้านที่ทุกคนในบ้านสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก การคมนาคมทั่วถึง มีรถประจำทางหรือทางด่วนที่ทำให้การเดินทางไปทำงานหรือไปเรียนเป็นไปได้อย่างสะดวก ไม่เสียเวลาในการเดินทางมาก ต่อมาคือสิ่งแวดล้อม ควรเลือกบ้านในพื้นที่มีสิ่งแวดล้อมดี ไม่อยู่ใกล้กับที่ทิ้งขยะหรือโรงงานอุตสาหกรรม เพราะอาจได้รับผลกระทบทางด้านมลภาวะทั้งกลิ่น, เสียง, อากาศที่เป็นพิษ  รวมถึงอันตรายในด้านอื่น ๆ ที่ทำให้อยู่แล้วไม่สบายใจ 

 

ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน ควรพิจารณาถึงปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาด้วย และข้อสุดท้ายคือสิ่งอำนวยความสะดวก ให้พิจารณาดูว่าบ้านที่จะซื้อนั้นอยู่ในโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง ทั้งสนามส่วนกลาง, คลับเฮ้าส์, ระบบรักษาความปลอดภัย อีกทั้งควรอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญต่าง ๆ อย่างเช่นโรงเรียน, มหาวิทยาลัย, โรงพยาบาล, ตลาด, ห้างสรรพสินค้า เพื่อให้การใช้ชีวิตในบ้านนั้นสะดวกสบาย ต้องการอะไรก็ขับรถออกจากบ้านมาไม่ไกลก็ได้สิ่งที่ต้องการแล้ว

 

5.แบบบ้านและขนาดที่เหมาะสม

บ้านราคา 2-3 ล้านบาท นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายแบบหลายสไตล์ แม้จะมีราคาเท่ากันแต่ขนาดพื้นที่อาจมีความแตกต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับทำเลของบ้าน ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ควรพิจารณาถึงแบบบ้านและขนาดพื้นที่ของบ้านที่เหมาะสม หากเป็นครอบครัวใหญ่ก็อาจจะอยากมีบ้านที่มีพื้นที่กว้างพอสมควร ซึ่งก็หมายความว่าอาจจะต้องขยับทำเลออกไปนอกเมืองมากขึ้น เพื่อให้ได้บ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ราคาไม่แพง ทั้งนี้การเลือกทำเลที่ห่างไกลออกไปก็ต้องพิจารณาด้วยว่าสมาชิกในบ้านจะดำเนินชีวิตได้อย่างสะดวกหรือไม่ หรือต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปเรียนหรือไปทำงาน แต่หากเป็นครอบครัวขนาดเล็กก็อาจจะเลือกโครงการบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยย่อมเยาลง แต่อยู่ใกล้ตัวเมืองมากขึ้น  เป็นต้น ส่วนแบบบ้านนั้นแล้วแต่ความชอบเจ้าของบ้านที่ต้องการ

 

6.หาธนาคารที่มีเงื่อนไขดี

ธนาคารแต่ละแห่งนั้นจะมีความยากง่ายในการขอ กู้ซื้อบ้าน และเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งยังมีช่วงเวลาโปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษที่จะออกมาในแต่ละช่วงเวลาด้วย ดังนั้นหากอยาก กู้เงินซื้อบ้าน ในแบบที่คุ้มค่าและประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว ซึ่งปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาในการ กู้เงินซื้อบ้าน คือ 

  • นโยบายดอกเบี้ยของธนาคาร โดยแต่ละธนาคารจะมีการจัดอัตราดอกเบี้ย MRR ไม่เท่ากัน ผู้ที่อยากมีบ้านแต่ไม่อยากจ่ายดอกเบี้ยบ้านแพง ๆ ควรเข้าไปตรวจสอบเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยของแต่ละที่ แล้วเลือกธนาคารที่มีเงื่อนไขดีที่สุด ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด เพื่อตอบโจทย์คุณได้ครบถ้วน 
  • นโยบายจากภาครัฐ ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจชะลอตัว รัฐบาลออกนโยบายด้านดอกเบี้ยเงินกู้ที่อาจช่วยให้ผู้กู้เงินได้รับประโยชน์มากขึ้น เช่น นโยบายลดดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ช่วยให้การกู้เงินเป็นไปได้อย่างสะดวกมากขึ้น
  • บริษัทโครงการบ้านหลายแห่ง มีการทำสัญญาความร่วมมือกับทางธนาคารที่ช่วยเอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับผู้ กู้ซื้อบ้าน ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากที่ทำให้กู้ผ่านง่ายและมีเงื่อนไขที่ช่วยลดภาระในการผ่อน ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการไหน ลองตรวจสอบนโยบายดังกล่าวไว้ด้วยก็จะดี เพราะเป็นสิทธิประโยชน์ที่จะช่วยลดภาระลงไปได้มาก

 

7.เดินบัญชีธนาคารให้ดูดี

เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมและวางแผนจะดำเนินการยื่นกู้ สิ่งที่คนอยากมีบ้านต้องทำ คือ เดินบัญชีธนาคารให้ดี เพื่อที่จะได้ผ่านการอนุมัติขอ กู้ซื้อบ้าน ได้ง่ายขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะขอดูการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน สำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำนั้นอาจจะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะมีรายได้ที่เข้ามาเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพียงแต่ต้องบริหารเงินให้มีเงินเหลือติดบัญชีธนาคารในแต่ละเดือนและระมัดระวังเรื่องการติดเครดิตบูโร

 

ดังนั้นใครที่ทำเรื่องผ่อนของหรือกู้สินเชื่อ ต้องมีการชำระเงินที่สม่ำเสมอ เพื่อเป็นหลักฐานให้ธนาคารได้เห็นว่ามีประวัติในการเป็นลูกหนี้ที่ดีที่จะทำให้โอกาสในการปล่อยสินเชื่อนั้นง่ายขึ้นและอาจได้วงเงินที่สูงขึ้น ส่วนคนที่ทำธุรกิจส่วนตัวและอาจไม่ได้มีรายได้ที่เข้ามาเป็นจำนวนแน่นอนในแต่ละวันหรือแต่ละเดือน สามารถทำรายการเดินบัญชีให้ดูดีด้วยการเปิดบัญชีธนาคารเอาไว้แล้วนำเงินฝากเข้าอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 6 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อเป็นหลักฐานให้ทางธนาคารเห็นว่าเป็นผู้ที่มีรายรับสม่ำเสมอ มีความมั่นคงทางการเงินที่จะทำให้โอกาสอนุมัติมีสูงเช่นกัน

 

8.เตรียมเอกสารให้ครบครัน

ขั้นตอนสุดท้ายเป็นขั้นตอนของการเตรียมเอกสาร เมื่อจะยื่น กู้ซื้อบ้าน กับธนาคาร ซึ่งผู้ที่อยากมีบ้านจะต้องทำการเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อมตามที่ทางธนาคารกำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานรับรองรายได้, สลิปเงินเดือน, ใบรับรองการทำงาน เป็นต้น อาจทำการสอบถามกับธนาคารไว้ก่อนว่าต้องการหลักฐานและเอกสารอะไรบ้าง จะได้เตรียมความพร้อมไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนดำเนินการเพื่อที่จะช่วยให้คนที่มี เงินเดือน 15,000 ซื้อบ้าน 2 ล้าน สามารถทำตามความฝันให้เป็นจริง  ซึ่งนอกเหนือจากการวางแผนที่ดีแล้ว ผู้ซื้อก็จะต้องมีวินัยทางการเงินที่ดี สามารถทำตามแผนทางการเงินและผ่อนชำระได้ตรงตามเวลาที่กำหนด เพียงเท่านี้บ้านในฝันก็จะอยู่กับคุณไปได้ตลอดไปอย่างที่ต้องการ

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top