NOTE:
– อุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2554 หรือ มหาอุทกภัย เป็นอุทกภัยรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำโขง มีราษฎรได้รับผลกระทบกว่า 12.8 ล้านคน และถูกจัดให้เป็นภัยพิบัติครั้งมีมูลค่าความเสียหายมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลก
ในวันที่เมืองค่อยๆ เปลี่ยนไปตามยุคสมัย และโซเชียลกลายเป็นเครื่องมือในการนำเสนอข่าวของคนยุคนี้ เฟซบุ้ค ทวิตเตอร์ กลายเป็นที่เผยแพร่เรื่องราวทั้งส่วนบุคคลและสาธารณะ ข่าวต่างๆ ที่ผ่านตามีทั้งเรื่องดีและไม่ดี จนย้อนนึกไปว่าสังคมเราเปลี่ยนไปมากขนาดนี้เลยหรือ? ผู้คนที่เคยช่วงเหลือกันเมื่อครั้งอดีต ทุกวันนี้หายไปไหน เรื่องของคนอื่นเป็นเรื่องไกลตัวที่เราไม่ควรไปยุ่ง เรื่องของเรากลายเป็นเรื่องของคนสาธารณะหมู่มากที่ถูกแชร์ต่อๆ กันจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต คำถามคืออนาคตของเมืองต่อไปจะเป็นเช่นไร เรายังร่วมและช่วยกันเปลี่ยนให้มันดีขึ้นกว่านี้ได้รึเปล่า?
หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2554 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ พื้นที่กว่า 70% ในประเทศไทย จมอยู่ใต้น้ำนานร่วมหลายเดือน ไม่มีใครที่ไม่ได้รับความเดือดร้อนนี้ ขึ้นอยู่กับว่ามันจะมากหรือน้อยในสถานที่ของตัวเอง แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นก็คือ น้ำใจคนไทยที่หลั่งไหลออกมาช่วยเหลือกันในยามยาก
และแม้ว่าจะมีคนประมาณเกือบ 10 ล้านได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งนี้ แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อย พร้อมที่จะยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติโดยเต็มใจ และไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน พวกเขาหวังเพียงว่าความช่วยเหลือจากคนตัวเล็กๆ อย่างพวกเขาจะส่งผ่านไปถึงผู้ประสบภัย และทำให้ความเดือดร้อนของเพื่อนร่วมชาติบรรเทาลงบ้างแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี บางคนยังต้องไปทำงานขณะที่บ้านตัวเองน้ำท่วม แต่ก็ยังสละเวลาอันมีค่าหลังเลิกงาน มาช่วยคนอื่นที่ได้รับความเดือดร้อนมากกว่า
อันที่จริง แม้การบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน จะเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐ แต่ในยามที่รัฐไม่อาจจะช่วยได้หมดทุกหย่อมหญ้า การช่วยเหลือของประชาชนผู้มีจิตอาสาได้กลายเป็นความเคลื่อนไหวหลักที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการออกแรงกายตักทรายทำคันกั้นน้ำ การบริจาคของแพ็คของช่วยเหลือผู้ประสบภัย, การทำส้วมฉุกเฉิน ฯลฯ ก็ล้วนเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น
ในวันนั้น คำว่า ‘จิตอาสา’ ของประชาชนทั่วไป จึงกลายเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญ ที่จะนำพาประเทศไทยที่กำลังบอบช้ำ ฝ่าวิกฤตอุทกภัยครั้งนั้นไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง เป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด แล้วทำไมวันนี้เราจะมาเปลี่ยนเมืองที่กำลังจะดำดิ่งสู่วิกฤติรอบด้านให้ดีกว่าเดิมขึ้นไม่ได้อีกครั้ง เพียงทุกคนจับมือกันให้แน่นมาร่วมเปลี่ยนเมืองเพื่ออนาคต เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนเมืองเราไม่สามารถทำคนเดียวได้ หากเราต้องร่วมกันพัฒนาและช่วยกันสร้างวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าสำหรับคนเมือง
ANANDA DEVELOPMENT
TODAY.TOGETHER.TOMORROW. #WECulture
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development