ขอเสียงคนที่เริ่มผูกพันกับการ Work from home แล้วหน่อยครับ !! แล้วใครที่เริ่มจะมีปัญหากับการที่ Work เข้ามาหลอมรวมกับ Life จนแทบจะแยกกันไม่ออกบ้าง ?! บอกเลยว่าอาการ Burnout ที่กลับมาระบาดรุนแรงไม่แพ้ Covid-19 ในตอนนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการ WFH นี่แหละครับ เมื่องานกับเวลาส่วนตัวผสมปนเปจนเป็นเนื้อเดียวกัน นั่นจะทำให้คุณรู้สึกถึงความเครียดที่ค่อย ๆ เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้เรามีวิธีการจัดการเวลาขั้นเทพมาฝากชาวอนันดา มาสร้าง Work-life Balance ให้ชีวิตกันเถอะครับ !
ทำตารางเวลา
วิธีจัดการเวลาสำหรับมือใหม่ อันดับแรกเราต้องรู้ก่อนว่าในแต่ละวันเรามีเวลาเท่าไหร่ให้ใช้ โดยจะต้องระบุลงไปให้ชัดเจนนะครับว่าเราตื่นนอนเวลากี่โมง และจะเข้านอนกี่โมง นี่อาจจะเป็นข้อดีข้อหนึ่งของการ WFH ที่คุณสามารถเอาเวลาที่เคยเสียไปกับการเดินทางมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ การกำหนดระยะเวลาที่สามารถใช้งานได้จริงในแต่ละวันจะเป็นกรอบที่ทำให้เราสามารถออกแบบชีวิตได้ว่าจะทำงานกี่ชั่วโมง และมีเวลาส่วนตัวช่วงไหนบ้าง อาจจะรีมาร์กช่วงเวลาที่คุณรู้สึก Productive ที่สุดในแต่ละวันเอาไว้ด้วยก็ได้ครับ ตารางเวลานี้คุณควรจะต้องอัพเดตมันทุกวัน และยึดเป็นกิจวัตร เมื่อมีงานเร่งงานด่วนคุณก็จะประเมินได้ว่าตารางเวลาของคุณจะต้องปรับต้องเปลี่ยนยังไงบ้าง
งานเร่ง > งานยาก > งานเบา
เทคนิคนี้ให้คุณมองการทำงานเป็นเหมือนการออกกำลังกาย ที่ช่วงเริ่มต้นจะเป็นการวอร์มอัพให้เครื่องร้อนซะก่อน “งานเร่ง” หรืองานที่มีคนรอรับไม้ต่ออยู่ดูจะเหมาะกับการเอาขึ้นมาทำเป็นเรื่องแรก เพื่อให้คุณตื่นตัวในระยะเวลาอันสั้น หลังจากเครื่องร้อนแล้วจังหวะนี้ “งานยาก” ก็ต้องออกโรง เพื่อให้คุณได้ใช้พลังสมองอย่างเต็มที่ ก่อนจะปิดท้ายด้วย “งานเบา” อย่างเช่นงาน Routine ที่ไม่ต้องใช้พลังสมองมากมาย เป็นการคลูดาวน์ก่อนจะเริ่มต้นเวลาพักผ่อนแสนสุขของคุณ นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีจัดการเวลาที่ช่วยให้คุณมองเห็นภาพของการทำงานในแต่ละวันชัดขึ้น และเรียงลำดับความสำคัญของงานได้ง่ายขึ้นด้วยครับ
Work Hard / Play Hard
อย่าปล่อยให้เวลางาน กับเวลาพักผ่อนผสมปนเปกันเชียวนะครับ การไม่แบ่งเวลางานและเวลาพักผ่อนออกจากกันให้ชัดเจนจะทำให้คุณพบกับสถานการณ์ “งานก็ไม่เสร็จ” “พักผ่อนก็ไม่พอ” แบบที่ทำงานเสร็จหนึ่งงานแล้วแวะเล่นเกมส์หนึ่งแมทซ์นี่ไม่ได้เลยนะครับ เมื่อเลือกจะ concentrate กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วการใช้เวลากับมันอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องสำคัญไม่ควรแทรกด้วยกิจกรรมพักผ่อนที่จริงจังจนเกินไป เพราะกว่าจะดึงสติกลับมาที่การทำงานอีกครั้งได้จะทำให้คุณเสียเวลาที่มีค่าไปอย่างน่าเสียดายเลยล่ะครับ หรือถ้ามองในมุมกลับการแวะดูซีรีส์สุดมันส์ 1 ep แล้วขั้นด้วยการทำงาน ก็ทำให้คุณเสียอรรถรสไม่เบาเลยใช่ไหมล่ะครับ
อย่ารักพี่เสียดายน้อง !
สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้อง WFH เมื่อก่อนการตอกบัตรออกจากออฟฟิศอาจจะเป็นวิธีสับสวิตซ์เข้าสู่โหมดชีวิตส่วนตัวของคุณ แต่พอเปลี่ยนมาเป็น WFH แล้วคุณแทบไม่รู้เลยว่าตอนนี้ถึงเวลาพักผ่อนหรือยัง !! จากเทคนิดต่าง ๆ ที่เราแนะนำมาก่อนหน้านี้หลาย ๆ คนคงจะได้สร้างตารางเวลาของตัวเองขึ้นมาแล้ว แต่ศัตรูตัวร้ายของ Work-life balance นั่นคือ “งานแทรก” ครับ ! เมื่อเจองานประเภทนี้การจะบอกให้ปฏิเสธไปก็ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้จริง วิธีที่คุณสามารถนำมารับมือกับเหตุการณ์แบบนี้คือคุณควรขยับงานที่ยัง “รอได้” ไปใส่ในตารางงานของวันถัดไปแทน ไม่ควรรักพี่เสียดายน้อง เบียดทุกงานเอาไว้ในวันเดียว จนกลายเป็นลากยาวไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันไปซะอย่างนั้น อย่าคิดจะลำบากวันนี้เพื่อสบายวันหน้า เพราะหากเริ่มต้นไอเดียแบบนี้เมื่อไหร่ เตรียมตัวลำบากกันไปทุกวันได้เลยล่ะครับ
สุดท้ายแล้วการทำงานก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้เราได้มีปัจจัยมาใช้จ่าย แต่อย่าหลงลืมว่าชีวิตที่คุณต้องใช้ ก็ควรจะป็นชีวิตที่มีคุณภาพด้วยเหมือนกัน สร้าง Work-life balance ให้ชีวิตของคุณอย่างจริงจัง หลังจากใช้พลังงานไปกับการทำงานที่แสนยากแล้ว แทรกเวลาพัก 5 – 10 นาที เพื่อให้ตัวเองได้ผ่อนคลายบ้าง คุณอาจจะออกไปยืนชมวิวพักสายตาที่ระเบียงคอนโด หรือแวะรดน้ำบอนไซสุดรักเสียหน่อย อย่าปล่อยให้การ WFH เผาผลาญชีวิตของคุณ หาเวลาพัฒนาความคิด สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวคุณเองกันด้วยนะครับ
