เชื่อว่านาทีนี้ ใครๆ ก็อยากมี Work-Life Balance ที่ดี ยิ่งช่วงนี้อาการ Burnout กำลังฮิตในหมู่คนทำงานด้วยแล้ว การบาลานซ์ชีวิตทำงานกับการพักผ่อนที่ลงตัว จึงเปรียบเสมือนโบนัสก่อนโตของชีวิต
ดังนั้นเมื่อเราพบว่ามี “5 เมืองที่ได้ชื่อว่ามี Work-Life Balance ดีที่สุดในโลก” จึงอยากชวนทุกคนโยกย้าย (ทิพย์) ไปทำงานที่เมืองเหล่านี้กัน
สำหรับทั้ง 5 เมืองจาก 5 ประเทศนี้เป็นการจัดลำดับโดยองค์กรชั้นนำ “Kisi” ที่ให้ความสำคัญกับการ Work-Life Balance โดยสำรวจและจัดเก็บข้อมูลการทำงานใน 50 เมืองจากทั่วโลก โดยพิจารณาจาก 18 ตัวชี้วัด ตั้งแต่ชั่วโมงทำงาน วันหยุดพักผ่อน อัตราการว่างงาน ตลอดจนสภาพสังคม ฯลฯ เรียกได้ว่าวัดจากปัจจัยหลากหลาย จนได้ข้อสรุปว่า 5 เมืองที่ได้ชื่อว่ามี Work-Life Balance ประกอบด้วย…
อันดับ 1: “เมืองเฮลซิงกิ” เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ ซึ่งปีก่อนนี้เมืองเฮลซิงกิก็ครองแชมป์นี้เช่นกัน
อันดับ 2: “ออสโล” ประเทศนอร์เวย์
อันดับ 3:“ซูริก” ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อันดับ 4:“สต็อกโฮล์ม” ประเทศสวีเดน
อันดับ 5:“โคเปนเฮเกน” ประเทศเดนมาร์ก
ส่วน “กรุงเทพฯ” ติดท็อป 3 เมืองที่มีชั่วโมงการทำงานนานที่สุด โดยแชมป์เมืองที่มีอัตราการทำงานหนักสูงสุดตกเป็นของ “ฮ่องกง” ?
เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว หากรู้สึกว่าเรากำลังทำงานหนักเกินไป ลองใช้วันหยุดลาพักร้อนที่มี ไปชาร์จพลัง คลายความเครียดกันบ้างนะครับ
ข้อมูลจาก: https://www.getkisi.com/work-life-balance-2021#table